วันนี้ (2 ตุลาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 25 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ที่ ปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส. กทม. พรรคประชาชน ตั้งถาม อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีเหตุการณ์ถนนสามเสนยุบหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยระบุว่า ได้เห็นนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เหตุการณ์ดังกล่าวบ่อยครั้ง สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่แค่เพียงหลุมลึกกว่า 50 เมตร แต่เป็นการถล่มความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อโครงการของรัฐบาล
“ผมมองว่ากรณีนี้อาจแย่กว่าอาคารสำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มเสียอีก เพราะเหตุการณ์นั้นเรายังทราบผลกระทบชัดเจนว่ามาจากแผ่นดินไหว อย่างน้อยเรารู้ที่มา แต่กรณีนี้ กทม. ได้ชี้แจงว่าโครงสร้างหลักของอุโมงค์เสร็จตั้งหลายเดือนแล้ว และเปิดให้ประชาชนสัญจรถนนเส้นนี้เป็นจำนวนมาก แปลว่าหน่วยงานในกำกับดูแลของรัฐมนตรีมีความเชื่อมั่นว่าถนนเส้นนี้ปลอดภัย”
ปารเมศตั้งคำถามนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่ามีแนวทางอย่างไรในการฟื้นฟูผิวถนนซ่อมแซมอุโมงค์ รวมถึงมาตรการเยียวยา และป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ปารเมศยังหวังด้วยว่า คณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงคมนาคมที่จะตั้งขึ้นนั้น ขอให้มีความเป็นอิสระ ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ปกป้องนายทุน นอกจากนี้ยังเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า โครงการนี้มีผู้สร้างคือกลุ่มกิจการร่วมค้า ช. การช่าง และ ซิโน-ไทย และเป็นที่ทราบกันดีว่านายกรัฐมนตรีเคยเป็นอดีตผู้บริหารของบริษัทซิโน-ไทย
“ผมได้ดูคลิปที่นักข่าวพยายามหาประเด็นนี้ต่อนายกรัฐมนตรี ผลที่ได้คือการเดินหายไปอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่าประชาชนจะตั้งคำถามเรื่องการตรวจสอบที่โปร่งใสหรือไม่ จึงขอถามเพื่อความชัดเจนว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีมีอดีตที่เกี่ยวข้องกับบริษัทนี้ ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการตรวจสอบจะโปร่งใสไม่ถูกบิดเบือน แล้วจะไม่ให้ความรับผิดชอบหายไปกับหลุมที่ยุบไป” ปารเมศกล่าว
ย้ำตอนนี้ไร้ความเกี่ยวข้องซิโน-ไทย ให้อิสระในการตรวจสอบ
จากนั้น อนุทินตอบชี้แจงว่า เหตุการณ์ถนนทรุดตัวเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียใจและผิดหวังให้กับตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะพาคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ในวันเดียวกันนั้น ซึ่งเมื่อได้ทราบสาเหตุแล้วก็ได้สั่งการให้ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุโดยเร็ว และขอให้มีการรายงานผลมายังตนเองในทุกสัปดาห์
สำหรับเหตุการณ์ถนนทรุดตัวครั้งนี้ ได้ใช้หลักการเดียวกันกับครั้งอาคาร สตง. ถล่ม ซึ่งในขณะนั้นตนเองดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงได้ตั้งคณะกรรมการซึ่งมีตัวแทนจากผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม รวมถึง กทม. มั่นใจว่าจะสามารถพบจุดบกพร่องนำมาชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ โดย รฟม. ได้เร่งรัดคืนความเป็นปกติให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงสถานพยาบาล และสถานีตำรวจ คาดว่าการคืนพื้นผิวสภาพการจราจรจะใช้ได้ภายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้
อนุทินยังได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่เมื่อตนเองได้รับคำถามจากผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตนเองและผู้รับจ้างโครงการ โดยเดินหนีไม่ได้ตอบนั้น ก็เพื่อจะมาตอบในวันนี้ทีเดียว ตนเองมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2547 นับถึงวันนี้ก็ 21 ปี และทราบดีถึงข้อจำกัดต่างๆ แน่นอนว่าตนเองมาจากภาคเอกชนในอดีตไม่ต่างจากผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วเราก็ต้องเคลียร์ตัวเอง
อนุทินเผยว่า ได้ออกจากบริษัทภาคเอกชนไม่ใช่แค่ซิโน- ไทย แต่ทุกบริษัท เพื่อมาทำงานด้านการเมือง และเมื่อมีการเลือกตั้งปี 2562 ก็ได้ขายหุ้นในบริษัทซิโน-ไทยจนหมดไม่เหลือแม้แต่หุ้นเดียว ตอนนี้จึงไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ อีก
“ตัวผู้รับจ้างแม้จะเคยเป็นบริษัทที่ผมเคยบริหารมาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่ป่านนี้เดินเข้าไปในบริษัทคงเหลือคนจำผมได้ไม่กี่คนเท่าไร”
อนุทินยืนยันว่า จะไม่มีการปกป้องเพื่อให้ผู้รับจ้างได้ผลประโยชน์ ตนเองกับบริษัทซิโน-ไทย ตอนนี้ก็เหมือนคนไม่รู้จักกัน ขอให้สัตยาบันเลยว่า นอกจากจะให้อิสระกับกระทรวงคมนาคมในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ตนเองจะไม่มีการพิจารณาคุณสมบัติว่าใครเหมาะสมหรือไม่ เพราะเรื่องนี้จะจบตั้งแต่กระทรวงคมนาคม และ ครม. ต้องรักษาผลประโยชน์ของรัฐเท่านั้น ไม่สามารถไปปกป้องนายทุนได้
“เรื่องพวกนี้ผมไม่เคยเสียหาย ผมเสียเพื่อนไปหลายคน เพราะปฏิเสธที่ใช้อิทธิพลหรืออำนาจใดๆในการช่วยเหลือพวกเขา ทุกครั้งที่มีการขอ คำตอบที่ได้จากผมคือความว่างเปล่า ในไลน์มีแต่คำว่า กรุณาอ่านไลน์ด้วย ถ้ามีเรื่องแบบนี้มา นอกจากผมไม่อ่านแล้ว บางทีผมบล็อกด้วย ผมค่อนข้างมีความมั่นใจในตัวเองว่า เมื่อผมมาอยู่ตรงนี้แล้ว หน้าที่ของผมคือการปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนเท่านั้น” อนุทินกล่าวทิ้งท้าย