จากกรณีที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกับทหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามภาค 7 เข้าตรวจค้นและยึดต้นกัญชา 200 ต้น พร้อมทั้งอุปกรณ์การสกัดน้ำมันกัญชาในมูลนิธิข้าวขวัญ อีกทั้งยังแจ้งข้อหา นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิฯ
ล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความระบุ เพราะปัญหาของประชาชนรอไม่ได้
ผมขอรับผิดชอบเป็นผู้ประกันตัวและการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมให้ คุณเดชา ศิริภัทร และ คุณพรชัย ชูเลิศ เอง
การร่วมสมทบทุนที่ตั้งใจไว้ ขอให้เป็นการสมทบทุนเพื่อพัฒนาและต่อยอดการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ของภาคประชาชนตามเจตนารมณ์ของคุณเดชา เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยต่อไป
ผมขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้ประชาชนมีสิทธิ มีโอกาสปลูกกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ และเพื่อใช้ในครัวเรือน เพื่อใช้เป็นยารักษาอาการป่วยของตนเองได้
รอเวลาสภาฯ เปิด
ถึงวาระแก้กฎหมาย
มาช่วยกันผลักดันนะครับ
ทีมงานของ คุณเดชา ศิริภัทร ประสานมาที่พรรคภูมิใจไทยได้นะครับ
เพื่อการทำงานร่วมกัน
ขณะที่ นายเนวิน ชิดชอบ โพสต์ข้อความลงเพจเฟซบุ๊ก ‘ลุงเนวิน’ หัวข้อ ‘รวมพลังรักษาภูมิปัญญาไทย กัญชาเพื่อการแพทย์’
โดยมีเนื้อหาว่า ข่าวการจับกุมเจ้าหน้าที่มูลนิธิข้าวขวัญที่จังหวัดสุพรรณบุรี และยึดต้นกัญชา 200 ต้น พร้อมทั้งอุปกรณ์การสกัดน้ำมันกัญชา ตามข่าวอ้างว่า เป็นของ คุณเดชา ศิริภัทร กรรมการบริหารมูลนิธิฯ ที่ใช้ผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์แจกให้แก่ประชาชนเพื่อรักษาโรค และจะเรียกคุณเดชามาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปนั้น
ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ได้ศึกษาการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย แพทย์พื้นบ้าน รวมทั้งการใช้กัญชารักษาโรคตามภูมิปัญญาไทย ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่มีมากว่า 300 ปี ผมมีความเห็นว่า การจับกุม ยึดทำลายต้นกัญชา และอุปกรณ์การผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์เช่นนี้ เป็นการทำลายภูมิปัญญาไทย เป็นการปิดกั้นการพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ของประชาชน
ปัจจุบันนี้มีงานวิจัยทางการแพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมากยืนยันว่า กัญชาเป็นพืชที่มีคุณค่าทางการแพทย์ หลายประเทศในโลกรวมทั้งประเทศไทย อนุญาตให้มีการผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว อีกทั้งองค์การอนามัยโลกได้ศึกษาวิจัยและระบุว่า สารสกัดในกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่มีสรรพคุณรักษาโรค
ขณะที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวศึกษาวิจัยการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพการปลูกกัญชาดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีองค์ความรู้ภูมิปัญญาพื้นถิ่นเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างหลากหลายมายาวนาน กลับมีการจับกุมดำเนินคดีกับประชาชนผู้ศึกษาวิจัยการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเข้มงวด โดยไม่เปลี่ยนมุมมองต่อกัญชา และก้าวไม่ทันโลก
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โปรดใช้วิจารณญาณในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม รู้เท่าทันและศึกษาองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับกัญชาเพื่อการแพทย์ เพื่อที่จะไม่เป็นการทำลายภูมิปัญญาไทยและองค์ความรู้ที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานกว่า 300 ปี ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่ประเมินค่ามิได้ของคนไทยทั้งประเทศ และให้กำลังใจ คุณเดชา ศิริภัทร และทุกท่านที่ศึกษาวิจัยการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการศึกษาวิจัย รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้คนไทยช่วยกันรวมพลังเพื่อปกป้องรักษากัญชาเพื่อการแพทย์ของภาคประชาชน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยที่ต้องเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และป้องกันการผูกขาดกัญชาเพื่อการแพทย์ เพื่อประโยชน์กลุ่มธุรกิจเท่านั้น จากวันนี้ไป เราจะสู้ไปด้วยกันกัญชาไทย เพื่อคนไทย #saveเดชา #กัญชาเพื่อการแพทย์
ภาพ: พรรคภูมิใจไทย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล