วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เตรียมเดินทางไปยังกระทรวงสาธารณสุขและโจมตีการใช้กัญชาในประเทศ ว่า ยังไม่ทราบ ทุกคนในฐานะประชาชนมีสิทธิอยู่แล้ว เราต้องรับฟังข้อร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประเมินไว้หรือไม่ว่าเหตุใดชูวิทย์จึงพุ่งเป้ามาที่พรรคภูมิใจไทย อนุทินกล่าวว่า ไม่ได้ประเมิน เราทำงานของเรา ทุกคนมีสิทธิที่จะทำอะไรตามที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายเปิดทางให้ พร้อมยอมรับว่าเบื้องหลังการแฉของชูวิทย์มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง และเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งเช่นกัน พร้อมมองว่าไม่ได้ทำให้คะแนนเสียงของพรรคภูมิใจไทยลดลง เพราะพรรคภูมิใจไทยมีนโยบายและผลงานที่ชัดเจน ไม่เคยไปลอกผลงานของคนอื่น มีแต่ผลงานของตัวเราเอง ทำอะไรก็รู้ ประชาชนก็รู้ ทำงานก็รู้ พรรคภูมิใจไทยมีเส้นทางและหนทางของตัวเองอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ทราบหรือไม่ว่ากลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เป็นใคร อนุทินร้อง อุ๊ย พร้อมกล่าวว่า ทราบอยู่แล้ว แต่ทำไมจะต้องมาพูด เราก็ทำงานของเราไป ถามว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นครั้งแรกหรือไม่ ก็ไม่ใช่ เพียงแต่พรรคภูมิใจไทยไม่ทำแบบนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ไม่ต้องคุย พร้อมถามกลับว่าคุยทำไม ตอนนี้คุยไปก็ไม่มีประโยชน์ เลือกตั้งเสร็จใครมีจำนวน ส.ส. เท่าไร ค่อยไปคุย เงื่อนไขและรายละเอียดตอนนี้เหมือนทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ ทุกคนต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน พรรคภูมิใจไทยคิดอยู่แค่นี้ เดินทางร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ใครจะทำอะไรก็แล้วแต่ เราก็ทำงานของเรา ใกล้ชิดประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถมองหน้ากันได้หรือไม่ อนุทินตอบว่า ก็มองอีกแค่ 2-3 สัปดาห์ ก็ไม่เป็นไร ความสัมพันธ์ส่วนตัวและความสัมพันธ์ของ ครม. ต้องแยกกัน ซึ่งเรื่องนี้ตนเคยพูดไปแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ต้องทนอึดอัดไปก่อนใช่หรือไม่ อนุทินตอบว่า ก็ไม่ได้อึดอัดอะไร เพราะเราทำงาน มา ครม. คือมาทำงาน ไม่ทำงานก็หาว่าโดนละเว้น ส่วนจะส่งผลต่อการร่วมรัฐบาลหลังเลือกตั้งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละพรรค
“มันก็ดีเหมือนกันนะ ก่อนเลือกตั้งทุกคนก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ปลดแอก ปลดพันธนาการทั้งหลาย ทำให้เราอยากเป็นตัวของตัวเรา จะได้คิดอะไรโดยที่ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจหรือวิตกกังวล บางครั้งเราต้องคิดถึงตัวเราเอง หากมัวไปคิดถึงคนอื่นก็ไม่เป็นสิ่งที่ดีกับตัวเรา” อนุทินกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ชูวิทย์จะสกัดไม่ให้เป็นรัฐบาล อนุทินนิ่ง พร้อมกล่าวว่า “ไม่ให้ราคา”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ชูวิทย์บอกว่าบาปกรรมจะติดตัวหากผลักดันนโยบายกัญชาต่อไป อนุทินกล่าวด้วยเสียงสูงว่า สัปดาห์ที่แล้วชูวิทย์เพิ่งโทรศัพท์หาตน เพื่อนนัดกินข้าว แต่ก็ยังไม่ได้ทันได้นัดก็ออกมาว่ากันเสียแล้ว เป็นธรรมดาของเรื่องการเมืองที่รู้ๆ กันอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า จะไม่มีการโทรศัพท์ไปเคลียร์ใจ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนเคยโทรศัพท์ไปครั้งหนึ่งเพื่อชวนไปกินข้าว แต่ก็ไม่รับสายแล้ว และมีประเด็นต่างๆ เกิดขึ้น ก็ไม่ควรที่จะโทรไปแล้ว จริงๆ เป็นคนรู้จัก ให้กำลังใจกันมาโดยตลอด เคยคิดจะทำการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ด้วยกัน แต่พรรคภูมิใจไทยในขณะนั้นรู้สึกว่าการทำพื้นที่ กทม. ยังยาก แต่ว่าตอนนี้ได้ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มานำทีม กทม. คาดว่าชูวิทย์น่าจะโกรธด้วยสาเหตุนี้
“โอ๊ย คุณชูวิทย์กับผมรู้จักกันหลายปี งานแต่งลูกก็เป็นเพื่อนกัน เรื่องพวกนี้เป็นกลเกมทางการเมือง ก็ว่าไป แต่ละคนก็มีหน้าที่ และเราก็ทำหน้าที่ของเรา ใครอย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน” อนุทินกล่าวทิ้งท้าย