เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ช่วงหนึ่งผ่านรายการ เจาะลึกข่าวร้อน ช่อง TNN 16 กล่าวถึงการแถลงข่าวจับมือกันระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐว่า การจับมือคือส่วนหนึ่งของการจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังไม่ใช่ทั้งหมด พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เรื่องมากเท่าไร ถ้ารับข้อเสนอของภูมิใจไทยได้ 4 ข้อ ทั้งการเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากโดยมี ส.ส. เป็นเสียงข้างมาก ไม่สร้างความขัดแย้งในสังคม และเป็นนโยบายของแต่ละพรรคร่วมมาขับเคลื่อนผลักดันนโยบายก็สามารถร่วมงานกันได้
ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้รับฟังนโยบายของพรรคภูมิใจไทย แต่เขายังไม่ตอบรับ เพราะเขาก็ต้องนำไปพิจารณาในที่ประชุมกรรมการบริหารของเขา แต่ในส่วนของเรา ถ้ารับข้อเสนอของเราได้ก็จบโดยไม่มีเงื่อนไขอื่นๆ และเราพร้อมที่จะทำงาน
“ที่อยากทำงานเพราะเราไม่ได้มองว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน เราจะไปบอกว่านี่ประชาธิปไตย นี่ฝ่ายสนับสนุนเผด็จการ มันไม่ได้หรอกครับ วันที่ 24 มีนาคมคือวันที่จบคำว่าเผด็จการแล้วทุกคนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง”
ในส่วนของภูมิใจไทย เงื่อนไขที่เสนอไป ถ้ารับได้ก็เข้าร่วมรัฐบาล 100% ซึ่งเขายังไม่ตอบกลับมา แต่มันมีเงื่อนเวลาอยู่แล้วในการตอบกลับ
โดยอนุทินยอมรับว่าการได้นั่งในกระทรวงต่างๆ จะได้นำนโยบายพรรคภูมิใจไทยไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
“คนที่บอกว่าผมโกหกประชาชน บอกว่าผมเคยพูดว่านายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. ซึ่งผมไม่เคยพูดสักครั้งเดียว เพราะกติกาในรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจน และพรรคเคารพกติกามาตลอด อีกทั้งผมยังเคยบอกว่านายกฯ จะต้องไม่มาจาก ส.ว. ซึ่งไม่ได้มาจากประชาชน และขณะนี้ผมยังไม่ได้ผิดสัญญา แต่ถ้าประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วม ภูมิใจไทยก็ร่วมไม่ได้ และหากจะดันจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยโดยใช้เสียง ส.ว. โดยไม่นับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ขอให้ตัดพรรคภูมิใจไทยไปได้เลย
“ผมเคยบอกว่าจะไม่ให้ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากประชาชนมากำหนดว่าคนไหนจะมาเป็นนายกฯ ของประเทศไทย ผมผิดสัญญาหรือยัง หากประชาธิปัตย์ไม่มาร่วมสิ พรรคภูมิใจไทยก็ไปร่วมไม่ได้ ก่อนจะไปโหวตนายกฯ พรรคแกนนำต้องนำพรรคร่วมมานั่งแถลงร่วมกันก่อน และเสียงนั้นต้องเป็นเสียงข้างมากเพื่อให้รัฐบาลมีเสียงข้างมาก” อนุทินกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์