×

นายกฯ ยืนยันไม่มีข้อตกลงหยุดยิงตามที่ ‘ทรัมป์’ ระบุ เผยหารือเพียงอัปเดตสถานการณ์-ย้ำต้องปกป้องอธิปไตย

โดย THE STANDARD TEAM
13.12.2025
  • LOADING...
นายกฯ ยืนยันไม่มีข้อตกลงหยุดยิงตามที่ ‘ทรัมป์’ ระบุ เผยหารือเพียงอัปเดตสถานการณ์-ย้ำต้องปกป้องอธิปไตย

วันนี้ (13 ธันวาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลภายหลังการหารือทางโทรศัพท์ โดยระบุว่าไทยและกัมพูชาจะหยุดยิงในช่วงเย็นวันนี้ และกล่าวถึงเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุ

 

อนุทิน ชี้แจงว่า ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าการหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ ไม่ได้มีการตกลงเรื่องการหยุดยิง หรือการกลับเข้าสู่ปฏิญญาสันติภาพ Joint Declaration แต่อย่างใด เป็นเพียงการหารือและอัปเดตสถานการณ์ทั่วไป ซึ่งตนได้ยืนยันกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า ไทยมีความจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตยและดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่

 

เมื่อถามถึงความเข้าใจของฝ่ายสหรัฐฯ เรื่องการหยุดยิง นายกรัฐมนตรีระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้กล่าวบังคับว่าจะต้องหยุดยิงหรือไม่ โดยไทยไม่ได้แจ้งปฏิเสธไปตรงๆ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการตามภารกิจ ซึ่งรัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการให้เกียรติมิตรประเทศ จึงไม่มีความจำเป็นต้องโต้เถียง แต่จะดำเนินการในสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป

 

ส่วนกรณีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าจะมีการหยุดยิงในช่วงเย็นวันนี้นั้น อนุทิน ตั้งข้อสังเกตถึงสถานการณ์จริงในพื้นที่ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชายังคงมีการใช้อาวุธหนัก (จรวด BM-21) ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชน ส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร ดังนั้น หากไทยมัวแต่ฟังความเห็นจากภายนอก อาจส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน

 

สำหรับประเด็นที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดเป็นเพียงอุบัติเหตุ และมองว่าไทยตอบโต้รุนแรงเกินไป อนุทิน กล่าวตอบโต้ประเด็นนี้โดยขอให้พิจารณาจากความสูญเสียที่เกิดขึ้นจริง ทั้งจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีความรุนแรงเกินกว่าที่จะระบุว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุทั่วไป

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising