วันนี้ (15 ธันวาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยว่าไม่ชอบอีแอบ จากกรณีที่มีรัฐมนตรีบางคนไม่ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการพิจารณากฎหมายสำคัญว่า เป็นการพูดถึงคนที่ไม่เข้าร่วมประชุม ซึ่งตนก็บอกแล้วว่าได้เข้าประชุมและมีการติดต่อประสานงานอยู่ตลอดเวลา ขออย่าไปใส่ใจเรื่องพวกนี้ เพราะวันนี้นายกรัฐมนตรีก็จะเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซีย และตนก็จะไปด้วย พรรคกล้าธรรมก็ไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่พรรคฝ่ายค้านออกมาวิจารณ์ถึงเสถียรภาพของรัฐบาล อนุทินกล่าวว่า “ไม่มี ไม่มีหรอก”
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีความจำเป็นต้องเคลียร์ใจกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ อนุทินกล่าวว่าไม่ต้อง เมื่อเช้ายังโทรรายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อขอแนวทาง หลังจากที่จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเมียนมาจำนวน 68 คน ว่าจะดำเนินการอย่างไร ยืนยันว่าการทำงานมีความเป็นทีม ฉะนั้นเมื่อกระทรวงมหาดไทยจับ ก็มีประเด็นที่ไปเกี่ยวกับกรณีที่เมียนมาจับ 4 ลูกเรือไทย จึงต้องโทรรายงานนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่าเป็นการทำงานที่ให้เกียรติกันและแสวงหาความร่วมมือ เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การทำงานต้องเดินไปข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การส่งสัญญาณของทักษิณนั้นหมายถึงใคร อนุทินส่ายหน้าพร้อมกล่าวว่า “ไม่ได้หมายถึงผมแน่ๆ ก็แล้วกัน แต่หมายถึงใครก็ต้องไปถามท่านดู เพราะท่านเป็นผู้พูดและท่านไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่เราก็รู้ว่าไม่ใช่เรา เพราะท่านหมายถึงคนที่ไม่ได้ไปร่วมประชุม ครม. แต่ผมไปก็จบ ขอย้ำว่าอย่าไปใส่ใจ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ”
ส่วนการออกมาพูดเช่นนี้ของทักษิณนั้นเป็นการแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ อนุทินตอบว่าตนไม่ทราบว่าทักษิณพูดในฐานะอะไร แต่เรื่องนี้ผ่านไปแล้วและไม่มีอะไรต่อเนื่องออกมา ไม่มีใครออกมายอมรับว่าเป็นตัวเอง และในวันอังคารที่ 17 ธันวาคมนี้ ก็จะประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดต่อไป ทุกอย่างก็จบ ที่ผ่านมาต้องพิจารณาว่ามีอะไรที่เกิดความติดขัด เพราะพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็ไม่มี และโดยหลักการก็ถูกต้องแล้วที่ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน พรรคไหนเสนออะไร พรรคร่วมรัฐบาลก็สนับสนุน เช่นเดียวกันพรรคร่วมรัฐบาลเสนออะไร พรรคแกนนำก็สนับสนุน ทุกอย่างคือความต้องการของทั้งสองฝั่ง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนนโยบายของพรรคแกนนำอยู่แล้วใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ทุกคนทำอยู่แล้ว ตราบใดที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญและไม่ผิดกฎหมาย เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ จะไม่ทำได้อย่างไร เราพูดชัดเจน อะไรที่อยู่ในนโยบายเรารับทราบและต้องสนับสนุน ตอนนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร เรารับฟังหมดแล้วและสนับสนุน ส่วนอะไรที่ไม่ได้อยู่ในนโยบาย ถ้าจะทำต้องมาพูดคุยกัน เพราะมีหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในนโยบาย ก็มาพูดคุยและสนับสนุนกัน โดยอยู่ในกรอบที่ไม่ผิดกฎหมาย อย่าทำร้ายให้เป็นผลร้ายกับประเทศและประชาชน
“ถ้าเป็นตามกรอบนี้เราก็ตกลง ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นเราก็ No ย้ำว่าเราสนับสนุนซึ่งกันและกัน พรรคเพื่อไทยเสนออะไร พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา ก็สนับสนุน หากพรรคร่วมรัฐบาลเสนออะไรและพรรคแกนนำสนับสนุน เท่านี้ก็ไปได้ตลอดอยู่แล้ว” อนุทินกล่าว