วันนี้ (18 มิถุนายน) เวลา 15.50 น. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้ากระทรวงมหาดไทย เพื่อต้อนรับ ชิโร มาสคิโอ ประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมแห่งสภาผู้แทนราษฎรอิตาลี และประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาอิตาลี-ไทย พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย รวมถึงเป็นประธานในพิธีรับมอบสิ่งของบริจาคจากบริษัท P&G
เมื่อมาถึงอนุทินได้กล่าวทักทายข้าราชการที่มารอต้อนรับ ก่อนผู้สื่อข่าวจะถามว่า เก็บของทั้งหมดภายในกระทรวงมหาดไทยเสร็จแล้วใช่หรือไม่อนุทิน ตอบเพียงว่า ให้ไปถามเลขาส่วนตัว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทยเก็บของหมดแล้วใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ พร้อมกล่าวติดตลกว่า “สั่งวันนี้ เก็บตั้งแต่เมื่อวาน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงมหาดไทยใช่หรือไม่ อนุทิน ไม่ตอบ พร้อมหันมาพยักหน้า และยิ้มให้กับนักข่าว ก่อนเดินขึ้นห้องทันที
จากนั้นเวลา 16.45 น. อนุทินได้พาสื่อมวลชนชมห้องทำงานที่กระทรวงมหาดไทย โดยจังหวะที่เปิดเข้าไปภายในห้องทำงาน อนุทินตกใจ เนื่องจากตู้ปลา มังกรน้ำเปลี่ยนสี จากสีขาวเป็นสีเขียว ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า เกิดอะไรขึ้น อนุทินจึงอุทานว่า “อาเพศลง” ก่อนจะทราบว่า ปลามีอาการตาเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงได้ใส่ยาไปในน้ำ จึงทำให้น้ำเปลี่ยนสี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่เปลี่ยนใจใช่หรือไม่หากพรรคเพื่อไทยยอมและไม่เอาเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว อนุทิน กล่าวว่า “มันเลยจุดมาแล้ว”
จากนั้นได้มานั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งมีเอกสารวางอยู่เต็มโต๊ะ พร้อมกับกล่าวว่า รอให้คนใหม่เข้ามาเซ็น และจะดูหากเป็นเรื่องด่วน หรือเรื่องจำเป็นก็ทำเต็มที่ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เร่งด่วนให้รัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาสานต่อได้ก็ให้รอ เพราะต้องรักษามารยาท เนื่องจากกระทรวงหรือรัฐบาลขาดการบริหารงานไม่ได้ แต่อะไรที่เป็นนโยบายของเรา และต้องต่อเนื่อง เราก็ต้องหยุดสั่ง แล้วย้ำด้วยว่า พระที่วางอยู่ในห้องทำงานเป็นพระของกระทรวงมหาดไทยเป็นพระส่วนกลาง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนไหนของกระทรวงที่คิดถึงมากที่สุด อนุทินกล่าวว่า คิดถึงทุกคนมากที่สุด ซึ่งตนมาอยู่ที่นี่เกือบ 2 ปี ทำงานด้วยกัน ทีมงานค่อนข้างเป็นปึกแผ่น สมัครสมานสามัคคี และขับเคลื่อนนโยบาย ไม่มีช่องว่างระหว่างฝ่ายประจำกับฝ่ายการเมืองเลย
อนุทินกล่าวต่อว่า ตอนนี้เราถือว่าหมดภาระหน้าที่ไป อะไรที่มันวุ่นวายแทนที่เราจะไปรับผิดชอบ ก็ถือว่าเราหมดภาระนี้ไป ตอนนี้เราอยากจะทำอะไรตามใจก็ทำได้แล้ว ซึ่งหลังพ้นตำแหน่งเมื่อเปิดประชุมสภาก็ไปทำหน้าที่ สส. เพราะตนยังเป็นสส.อยู่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาจะไปพักผ่อนที่ไหนหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ตนพักผ่อนทุกวันอยู่แล้ว การทำงานอย่างนี้คือ การพักผ่อน เพราะตนเป็นลูกคนจีนถูกสอนมาอย่างนี้ ไม่มีพักผ่อนแบบ Vacation
เมื่อผู้สื่อข่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนหรือไม่นั้น อนุทินกล่าวว่า ในเมื่อเราไม่ได้ทำหน้าที่นี้แล้ว เราก็สามารถทำอะไรตามความเชื่อของพรรคได้ ซึ่งบางทีที่เราให้การสนับสนุนเพราะเราเป็นรัฐบาลด้วยกัน เพื่อให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้ เพราะถ้าเราไม่สนับสนุนเขา ถึงเวลาเขาก็ไม่สนับสนุนเรา ก็เกิดเป็นช่องว่าง แต่ในเมื่อเราไม่ได้ทำหน้าที่นี้แล้ว ก็ทำตามสิ่งที่เราคิดว่า ดีที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ เพราะถูกโยงในคดีฮั้ว สว. อนุทินกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน และไม่กลัวเลย ถ้าถามว่ากังวลหรือไม่ ก็กังวลว่าทำไมต้องมาวุ่นวายกับเรา แต่เรื่องการเตรียมความพร้อมในการสู้คดี เราก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ต้องใช้นักกฎหมาย และทนายความไปสู้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่ดินเขากระโดง กังวลหรือไม่ว่าจะถูกกลั่นแกล้งได้ อนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ผ่านมา 50-60 ปีแล้ว มีเจ้าของตั้งหมื่นกว่าหลังคาเรือน และครอบครัวชิดชอบเองก็ไม่เคยแสดงความกังวลใดๆ และยังบอกว่า ถ้ามีการพิสูจน์ก็พร้อมที่จะทำตามกฎหมาย และจำว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายไม่ว่าเรื่องอะไร และไม่เคยคิดว่า จะทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ถ้าหวังว่าจะต้องมีอำนาจมีประโยชน์ ส่วนตัวก็คงไม่ตัดสินใจง่ายเช่นนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปขอวิชาฝ่ายค้านจากรักนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน อนุทิน กล่าวว่าผู้สื่อข่าวมาถามว่าจะมาฝึกวิชากับฝ่ายค้านหรือไม่ ก็เลยนึกถึงคนดัง ซึ่งก็นึกถึง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เช่นกัน แต่พอดีว่ารักชนกมีเรื่องที่เกี่ยวโยงกับตึก SKYY9 CENTRE ก็เลยนึกถึง จากนั้นอนุทินโอดว่าเดี๋ยวกลับไปก็หูขาดอีก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรที่หวงที่สุดในห้องทำงาน อนุทินชี้ไปที่ด้านหลังโต๊ะทำงาน และบอกว่า “ฮู้หรือยันต์เซียนแปะโรงสี”