วันนี้ (25 ธันวาคม) ที่ ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระดับเลขานุการร่วมกันที่จังหวัดจันทบุรี ว่า ขณะนี้การประชุมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและจะดำเนินต่อไปอีก 3 วัน ขอให้รอผลสรุปอย่างเป็นทางการ ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่าบรรยากาศการประชุมดูตึงเครียดนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติของการทำงาน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
นายกรัฐมนตรี ยืนยันชัดเจนว่า รัฐบาลไทยยึดมั่นในแนวทางการแก้ไขปัญหาในรูปแบบ ทวิภาคี (คุยกันสองประเทศ) ตามมติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และปฏิเสธกระแสข่าวการเดินทางไปเจรจาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยระบุว่าหากไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนสุดวิสัย ก็ไม่มีเหตุผลต้องดึงบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง
กรณีโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ออกแถลงการณ์ตำหนิกองทัพไทยเรื่องการรื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู (นักรบแปดมือ/พระวิษณุ) บริเวณช่องอานม้านั้น อนุทิน ระบุว่า แม้ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่เรื่องนี้เป็นกิจการที่ต้องเจรจากันระหว่างไทยกับกัมพูชา ไม่ควรหวั่นไหวกับปัจจัยภายนอก พร้อมกล่าวเปรียบเทียบ ว่า รูปปั้นที่ถูกทำร้าย หากเทียบกับขาทุกขาที่ทหารเราเสียไป และไปเปรียบเทียบกับการลบหลู่ เรื่องนี้ผมไม่เอาไปเทียบหรอกครับ
สำหรับกรณีความสับสนเรื่องหนังสือจากกระทรวงกลาโหมกัมพูชาเกี่ยวกับการขอเจรจาหยุดยิง นายกรัฐมนตรีระบุว่า การกระทำสำคัญกว่าเอกสาร หากไทยถูกรุกรานก็ต้องมีการตอบโต้ตามกฎการปะทะ แต่หากการประชุม GBC ครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ จนนำไปสู่การลงนามข้อตกลงร่วมกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทั้งสองฝ่าย ตนคาดหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะรักษาสัญญา เพื่อยุติปัญหาและไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้งเพิ่มขึ้นอีก


