วันนี้ (11 มกราคม) ที่พรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอย่างเป็นการ หลังสมัครสมาชิกตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2566 พร้อมนำคนรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญหลายด้านมาสมัครสมาชิกด้วยอีกหลาย 10 ชีวิต
พุทธิพงษ์เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทยด้วยรถไฟฟ้า BTS จากสถานีห้าแยกลาดพร้าวถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วนั่งรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าจนถึงที่ทำการพรรค จากนั้นอนุทินเสนอตัวเป็นคนพาวนบริเวณลานจอดรถด้านหน้าพรรค
อนุทินกล่าวต้อนรับพุทธิพงษ์เข้าสู่พรรคอย่างเป็นทางการ พร้อมย้ำว่า มีความผูกพันกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่มาถึงรุ่นลูก รู้สึกดีใจมาก เพราะพุทธิพงษ์ทุ่มเท มีความสามารถ มีความตั้งใจรับใช้บ้านเมือง ซึ่งตรงกับความตั้งใจของพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทย เติมเต็มพรรคภูมิใจไทยให้เป็นพรรคการเมืองของประเทศ
อนุทินกล่าวด้วยว่า เราเริ่มต้นมาจากต่างจังหวัด ไม่มีพื้นฐานในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) เราอาจประหม่าในการเข้าถึงจิตใจคน กทม. แต่หลังจาก 4 ปีที่ผ่านมาที่ได้มีโอกาสเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เรามองว่า กทม. คือหัวใจของประเทศ เราตั้งใจทำให้ กทม. เป็นพื้นที่ให้คนทั่วประเทศมาประกอบอาชีพ เชื่อว่าพุทธิพงษ์ และ อดีต ส.ส. กทม. จะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อคน กทม.
อนุทินกล่าวย้ำว่า หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่ต้องแลกบัตร ไม่ต้องเข้าคิว อยู่กันแบบคนในครอบครัว ไม่มีพีธีรีตอง ทั้งที่สภาและพรรค มีความเป็นเอกภาพหนึ่งเดียว รับใช้ชาติบ้านเมือง รับใช้พี่น้องประชาชน ขอให้ทุกคนนำเจตนารมณ์นี้มาสิงในตนเอง องค์ลง
ขณะที่พุทธิพงษ์กล่าวว่า รู้สึกยินดีและตื่นเต้นที่จะร่วมทำงานกับพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน น้องๆ ได้ร่วมงานมาระยะหนึ่งแล้ว มองทุกมิติเกี่ยวกับ กทม. เติบโตใน กทม. จากนั้นไปศึกษาที่ต่างประเทศ ทั่วโลก เราทำเวิร์กช็อป พูดคุย นโยบายมาเป็นระยะหนึ่ง แล้วเคยมีโอกาสเชิญอนุทินมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกับทีมงานด้านสาธารณสุข
ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกพรรคภูมิใจไทย ขอตอบว่าถ้าย้อนดู 3 ปีที่ผ่านมา ภูมิใจไทยไม่มี ส.ส. ใน กทม. แต่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยที่รับผิดชอบกระทรวงต่างๆ ได้สร้างประโยชน์และโครงการมาให้คน กทม. ทั้งที่ไม่มี ส.ส. เลย ดังนั้น แม้ไม่มี ส.ส. ยังทำได้ขนาดนี้ ถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าเสนอคนเก่ง คนดี มีคุณภาพให้คน กทม. แล้วมาทำให้เกิดขึ้นจริง ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเรามาภูมิใจไทย
“อุดมการณ์คือสำคัญที่สุด พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่ามีนโยบายปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมมายืนตรงนี้เพราะเรื่องนี้อันดับหนึ่ง ตลอด 20 ปีที่ผมทำงานให้คน กทม. มาตลอด เราผ่านอะไรมาเยอะ จะทำให้ประเทศเดินไปได้” พุทธิพงษ์กล่าว
จากนั้นพุทธิพงษ์ได้เปิดนโยบาย ‘24/7’ ที่ดูแลคนกรุงเทพฯ ทุกวัน ทุกเวลา ทุกวัย ทั้งวัยเกษียณ วัยทำงาน วัยเรียน และวัยเด็ก เพื่อมาร่วมกันทําให้คนกรุงเทพฯ ภูมิใจ…ภูมิใจกรุงเทพฯ” ผ่านนโยบายย่อย 3 ข้อ
เพิ่มรายได้
หารายได้ 3 กะ เปิดพื้นที่ใหม่ๆ ส่งเสริมกิจกรรมใหม่ๆ เพราะวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ หมุนตลอด 24 ชั่วโมง เปิดพื้นที่การค้าขายที่ขายได้ตลอดวัน เน้นการสร้างงาน กระจายรายได้ เพิ่มกิจกรรมที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง
ออมเงินพันธบัตรรัฐบาล ประชาชนมีสิทธิซื้อก่อนนิติบุคคลหรือสถาบันการเงินต่างประเทศ เป็นการส่งเสริมการออมและประกันเงินฝาก สามารถเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเพิ่มความมั่นคงในการออมเงินและเศรษฐกิจของประเทศ
ลดรายจ่าย
พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก ไม่เกินคนละ 1 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับเงินกู้นอกระบบท่ีคิดร้อยละ 3 ต่อเดือน ถือได้ว่าสามารถช่วยผู้กู้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยตรงนี้ได้ถึงเดือนละ 30,000 บาทต่อเดือน
ตั๋ว One Day Pass Ticket ซื้อตั๋ววันได้ เพื่อให้ค่าเดินทางที่เป็นต้นทุนของการดําเนินชีวิตหากสามารถล็อกค่าใช้จ่ายส่วนน้ีไม่ให้แพงเกินไป เช่น รถเรือไฟฟ้า เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวัน 50 บาท และรถไฟฟ้า เริ่มต้น 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท
ลดค่าไฟฟ้า ติดโซลาร์รูฟฟรี ทุกครัวเรือน ลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า
จัดทำเครื่องกรองน้ำชุมชน ประชาชนต้องนําเงินสวนหน่ึงเพื่อมาซื้อน้ําดื่ม จ่ายเงินเพื่อเติมเงิน และเพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชนในทุกชุมชน
ลดภาษี 2 ทาง ผู้ให้/ผู้รับ: วัยทํางานต้องไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน (ใช้ VAT เพื่อหักภาษีส่วนบุคคล สูงสุด 150,000 บาทต่อปี) วัยทํางานที่ต้องเสียภาษีซ้ำซ้อนจะต้องหมดไป และจะได้นําเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายส่วนอื่นในการสร้างเนื้อสร้างตัว
ให้โอกาส
ส่วนการให้โอกาส เช่น การรักษามะเร็งฟรี ฟอกไตฟรี ผู้สูงอายุได้รับวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ โควิด มีคนฉีดให้ถึงบ้าน และ 16 อาการป่วย รับยาถึงบ้าน ส่งยาถึงบ้าน รถเมล์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และวินไฟฟ้า คันละ 6,000 บาท เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนสามารถเปลี่ยนมาใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในราคาที่เอื้อมถึง
ขณะที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวนโยบายที่ได้เปิดตัวในวันนี้ว่า เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างพี่น้อง กทม. และรัฐบาล ส่วนความคาดหวังพื้นที่ใน กทม. นั้น ไม่ได้แค่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่หวังไปถึงเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ เพราะพรรคภูมิใจไทยส่งครบ 400 เขต คิดว่าการจะทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชนได้ต้องได้รับชัยชนะในทุกเขต
ส่วนการจะรักษาแชมป์เดิมของ ส.ส. กทม. ที่ปัจจุบันได้ย้ายเข้ามาในพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่นั้น ให้ประชาชนตัดสิน แม้ว่าตอนเริ่มต้นเราไม่มี ส.ส. กทม. แต่ก็มีพี่น้อง ส.ส. ที่เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยทำงานได้ ก็จึงมาร่วมงาน และย้ำว่าเราไม่ได้รักษาแชมป์ เราต้องการเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนทั้งหมดใน กทม.
ด้านอนุทินกล่าวปิดท้ายว่า เมื่อใดก็ตามที่มีทางเลือกในทางการเมืองให้กับพี่น้องประชาชน เมื่อนั้นประโยชน์ต่างๆ จะเกิดขึ้นจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก และการเสนอตัวรับใช้พี่น้องชาว กทม. นั้น เราไม่ได้สักแต่ว่าเอาคนมารวมกัน แต่เราเตรียมตัวมาอย่างดี กว่าจะมาถึงวันนี้เราเตรียมตัวมาหลายเดือน วางแผนยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ รวมถึงบุคลากรที่มีความเหมาะสม ประกอบกับนโยบายต่างๆ ที่พุทธิพงษ์ ได้เป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทยในการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย หรือให้โอกาส ผลพลอยได้ไม่ได้ตกที่ กทม. เท่านั้น แต่จะขยายไปถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ