วันนี้ (17 ธันวาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี โดยทันทีที่เดินทางมาถึงอนุทินถึงกับอุทานว่า วันนี้ต้องเดินทางมาเร็วกว่าปกติ กลัวโดนเช็กชื่อเหมือนครั้งแรก
อนุทินยังกล่าวถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือ อบจ. ที่แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่ส่ง แต่เครือข่ายสีน้ำเงินชนะเลือกตั้งว่า อย่างที่บอกพรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายส่งเลือกตั้งท้องถิ่นในนามพรรค บางพื้นที่เป็นพี่น้องกันเขาก็ช่วยเหลือกัน แต่ถ้าสมมติว่าลงไปช่วยแล้วพี่น้องอยู่คนละพรรคการเมืองกัน เช่น ภูมิใจไทยกับเพื่อไทย แม้ว่าอยากจะช่วยแต่ก็เกรงใจพรรคที่สังกัด จึงปล่อยให้เป็นเรื่องของท้องถิ่น เพราะเป็นการเมืองในพื้นที่ไม่ใช่การเมืองใหญ่ ซึ่งถ้าเป็นในเรื่องของวงศ์วานว่านเครือผู้สมัครเขาก็มีความสบายใจกันมากกว่า พร้อมยืนยันว่าไม่มีการส่งทัพหลวงไปช่วย ส่งแต่ใจ จะให้ตนไปปราศรัยช่วยคงไม่ได้ เพราะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถ้าเป็นกระทรวงอื่นคงพอไหว ต้องทำตัวเป็นกลาง เพราะเราไปบอกให้ข้าราชการทำตัวเป็นกลาง ถ้าเราไปช่วยหาเสียงมันก็ไม่ได้
ส่วนพื้นที่ที่เป็นเครือข่ายของพรรคภูมิใจไทย เช่น เชียงราย, ศรีสะเกษ, นครพนม และบึงกาฬ จะหวั่นไหวหรือไม่ เนื่องจาก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประกาศจะลงไปสู้ อนุทินกล่าวว่า คนที่จะลงสมัครเลือกตั้ง อบจ. หรือท้องถิ่นเขาก็มีเวทีมีพื้นที่ของเขา ไม่มีความหวั่นไหวอะไร การแข่งขันทางการเมืองก็แข่งขันไป ไม่มีท่านทักษิณก็มีคนอื่นอยู่ดี อย่างนี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ต้องหวั่นไหว ถ้าตกใจง่ายก็ไม่ต้องเล่นการเมือง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายก อบจ.เพชรบูรณ์ เตรียมย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ อนุทินกล่าวว่า สนิทกันกับนายก ด๊อยซ์ (อัครเดช ทองใจสด) ไม่ได้คุยเรื่องการเมืองอะไรกัน ขณะนี้เขาอยู่ทีม สันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก่อนจะถามว่า สันติย้ายสังกัดพรรคแล้วหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เพราะพรรคพลังประชารัฐเดินทางการเมืองต่อยาก อนุทินกล่าวว่า เลือกตั้งค่อยมาว่ากัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีโอกาสที่นายก ด๊อยซ์จะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า มีโอกาสหมดแหละ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการเมืองในห้วงเวลานั้น ตอนนี้ยังไม่ใกล้เลือกตั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าเป็นการเตรียมการไว้ก่อน อนุทินกลับกล่าวว่า วันนี้มาแต่เช้าเลย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทักษิณประกาศว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าต้องได้ สส. ไม่ต่ำกว่า 200 คน ถือว่าพรรคการเมืองต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลาหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า อย่างที่ตนบอก พรรคไหนมาบอกจะตั้งเป้า 20 คน ใครจะมาสมัครก็ต้องวิเคราะห์ด้วย พร้อมย้ำคำที่เคยบอกว่า ถ้าตามเป้าหมายของทุกพรรคก็คงมี สส. ประมาณ 3,000 กว่าคน การวิเคราะห์ต้องดูว่ามันใช่หรือไม่ แต่ทุกพรรคการเมืองก็ต้องเตรียมการไว้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นพรรคอะไรก็ตาม ได้-ไม่ได้อีกเรื่อง
เมื่อถามต่อว่า การที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยส่งแต่ใจแต่ไม่ลงไปช่วยหาเสียง ขณะที่พรรคอื่นส่งทัพใหญ่ พรรคภูมิใจไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ อนุทินย้อนกลับทันทีว่า พรรคภูมิใจไทยก็ชนะมา ยังเป็นแชมป์อยู่ ส่วนกี่จังหวัดตนจำไม่ได้ รู้แค่ว่ายังเป็นเบอร์ 1
อนุทินยังชี้แจงเรื่องที่ไม่ได้เข้าประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ก่อน (11 ธันวาคม) ว่าวันนี้พรรคภูมิใจไทยมาครบหรือไม่ว่า ก็มาปกติ ยกเว้นใครที่ติดภารกิจ ตอนที่แจ้งว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพุธ ปกติถ้าวันอังคารเป็นวันหยุดมักจะเลื่อนไปเป็นการประชุมในสัปดาห์ถัดไป แต่เมื่อนายกฯ ขยัน เรียกประชุมวันพุธ รัฐมนตรีบางคนเขาก็รับงานไว้แล้ว ซึ่งตนก็เห็นว่าเป็นวันพุธจึงไปนัดแพทย์ไว้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
อนุทินยังกล่าวอีกว่า ให้ช่วยอธิบายให้ด้วย ไม่เข้าใจก็ไปโถมหนักเข้าไปอีก ระหว่างนั่งรอแพทย์ลงเลเซอร์ ได้รับโทรศัพท์จาก นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พอพูดติดตลกว่า ตนก็อยากหล่อบ้าง เพราะคนบอกว่าเรายังไม่หล่อ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องชี้แจงเป็นการส่วนตัวกับทักษิณหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ตนเองไม่ต้องชี้แจง เพราะข่าวก็ออกมาหมดแล้ว ก่อนออกตัวว่ามีไม่กี่คนที่ตนไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง และให้ความเคารพตลอด ไม่ว่าท่านจะพูดอย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นของตน เพราะตนรักของตน คือใครที่เรารักและเคารพมากๆ ดุด่าว่ากล่าวมา พร้อมยกตัวอย่างตนดุคนรถทุกวันจะตายไป ก็ยังคิดถึงเขาอยู่เลย เพราะไม่มีคนให้ดุ มันไม่เคยเถียงผม มันก็รักผม