×

จี้รัฐฟื้นคนละครึ่ง! เอกชนชง 4 ข้อเสนอด่วนถึงนายกฯ ‘อนุทิน’ ปลุกจีนเที่ยวไทยช่วงไฮซีซั่น

08.09.2025
  • LOADING...
anuthin-govt-economic-relief-plan

 

เอกชนเสนอ 4 มาตรการด่วน ถึงนายกฯ ‘อนุทิน’  ฟื้นโครงการคนละครึ่ง หวังปลุกกำลังซื้อ-กระตุ้นท่องเที่ยว โดยเฉพาะเร่งสร้างความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาในช่วงไฮซีซั่น และแก้ปัญหาเศรษฐกิจชายแดน

 

เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หลังจากที่ อนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเฉพาะกิจ โดยมีวาระการทำงาน 4 เดือนว่า “ส.อ.ท. ขอแสดงความยินดี ที่ประเทศไทยมีความชัดเจนด้านผู้นำรัฐบาล ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนและภาคธุรกิจ หลังจากที่การเมืองมีความไม่แน่นอนมาระยะหนึ่ง”

 

“เราหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ และกล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะในทีมเศรษฐกิจหลัก เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพราะสิ่งนี้จะเป็นสัญญาณสำคัญที่ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นให้ทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ แม้จะเป็นรัฐบาลระยะสั้น ก็ควรรีบเร่งทำงานอย่างเต็มที่ทันที” เกรียงไกร กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ‘ระยะเวลา 4 เดือนนับว่าสั้นมาก’ สำหรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับระบบภาษี การพัฒนาทักษะแรงงาน หรือการวางยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน ซึ่งต้องใช้ความต่อเนื่องหลายปีจึงเห็นผลชัดเจน ในระยะเวลาจำกัดนี้ รัฐบาลจึงควรเน้นมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาปัญหาเร่งด่วนและสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดี

 

สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่ต้องการเห็นภายใน 4 เดือน ส.อ.ท. เสนอว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งดำเนินการ ดังนี้

 

  •  บรรเทาค่าครองชีพและต้นทุนพลังงาน ที่ส่งผลโดยตรงต่อประชาชนและผู้ประกอบการ
  •  ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการเพิ่มสภาพคล่อง ลดภาษี และมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย
  •  เร่งรัดการเจรจาการค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ และตลาดสำคัญ เพื่อไม่ให้การเจรจาสะดุดจากการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
  •  ปรับปรุงระบบธุรกิจและภาษี ให้ทันสมัย ลดความซ้ำซ้อน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน

 

เกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นประเด็นหลักที่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุน ภาคธุรกิจและหน่วยงานราชการหลายแห่งอยู่ในภาวะ “wait and see” ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ทำได้เพียงประมาณ 50% ของเป้าหมาย ซึ่งกระทบต่อการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ

 

นอกจากนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินมาตรการได้อย่างชัดเจน การเจรจาการค้าระหว่างประเทศอาจหยุดชะงัก และการลงทุนใหม่ๆ อาจล่าช้าออกไป ซึ่งจะเป็นความท้าทายสำคัญของรัฐบาล เฉพาะกิจในช่วงเวลาเพียง 4 เดือนนี้

 

“แม้รัฐบาลจะมีเวลาจำกัด แต่ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะสร้างแรงกระตุ้นต่อเศรษฐกิจ และสร้างบรรยากาศเชิงบวกให้รัฐบาลถาวรในอนาคตมาสานต่อ ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อให้มาตรการเหล่านี้เกิดผลจริง” นายเกรียงไกร กล่าวทิ้งท้าย

 

หวังทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจใหม่เร่งฟื้นฟูประเทศ

 

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความผันผวนและเปราะบาง จากทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การค้าและการลงทุนที่มีข้อจำกัด ตลอดจนแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนและต้นทุนภาคธุรกิจที่สูงขึ้น

 

หอการค้าฯ มีความคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเร่งดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าอย่างจริงจัง และจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่ประกอบด้วยบุคลากรคุณภาพ มีความรู้ ความสามารถ เข้าใจโครงสร้างเศรษฐกิจ และยึดมั่นในประโยชน์ของประเทศและประชาชนเหนือผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อร่วมกันฟื้นฟูความเชื่อมั่นและสร้างโอกาสใหม่ให้กับประเทศไทย

 

สำหรับทิศทางการบริหารประเทศ หอการค้าฯ เห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วน 4 ด้านที่รัฐบาลได้ประกาศ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต่อการฟื้นฟูประเทศในช่วงเวลานี้ 

ได้แก่

 

  • ด้านเศรษฐกิจ ดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพทั้งค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน การเดินทาง และค่าขนส่ง แก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย ควบคู่กับการสร้างรายได้และโอกาสใหม่ให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ และชุมชนฐานราก
  • ด้านความมั่นคงชายแดน-จัดการปัญหาพิพาทชายแดนด้วยแนวทางสันติ ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
  • ด้านภัยธรรมชาติ พัฒนาระบบเตือนภัย การป้องกัน และกลไกเยียวยาฟื้นฟู เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ได้รับการชดเชยอย่างเป็นธรรม ทันท่วงที และสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง
  • ด้านภัยสังคม เร่งรัดมาตรการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การหลอกลวงออนไลน์ รวมถึงปัญหาการพนันและการพนันออนไลน์ โดยสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศอย่างจริงจัง

 

นอกจากนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ อยากให้เร่งแก้ไขปัญหาการส่งออก การเจรจาภาษีสหรัฐอเมริกา และ FTA เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

 

ฟื้น ‘คนละครึ่ง’  ปลุกจีนเที่ยวไทยไฮซีซั่น แก้ปัญหาเศรษฐกิจชายแดน

 

ดร.พจน์ กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH อีกว่า  เอกชนพร้อมสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในมาตรการเชิงรุก โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่ง” ที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และการ เร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวไทย ในตลาดต่างประเทศ

 

“โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนในไตรมาสสุดท้ายของปีจนถึงต้นปี ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียน กระจายสู่ชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก  ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของ ประเทศไทยกลับมา เรื่องนี้ เป็นเรื่องจำเป็น หอการค้าเองก็ได้เร่งประสานและกระตุ้นการสร้างความเชื่อมั่นกับทางการจีนในเรื่องการท่องเที่ยว” 

 

ทั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมสนับสนุนภารกิจเร่งด่วนทั้ง 4 ด้านของรัฐบาล อย่างเต็มที่ ขอให้ท่านรัฐมนตรีแต่ละท่านมีฝีมือมาช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังเปราะบางอย่างมากในขณะนี้ 

 

“ข้อที่สำคัญที่สุด ที่ต้องเร่งทำคือ กระตุ้นกำลังซื้อ การจับจ่ายภายในประเทศ ให้เร็วที่สุด ภายในกรอบเวลา 4 เดือน และอีกเรื่องคือปัญหาชายแดนทั้งฝั่งกัมพูชาและเมียนมา ซึ่งทราบวันนี้ว่า เมียนมามีการปิดบางด่านอีก ซึ่งแต่ละวันเศรษฐกิจชายแดนของไทย ก็ค่อนข้างเสียหายอย่างมาก”

 

ภาพ : primeimages / Getty images

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising