วันนี้ (1 กุมภาพันธ์) น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นำผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์จำนวน 6 ราย เข้าพบ พล.ต.ต. สยาม บุญสม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวไทยที่เป็นธุระจัดหาหญิงไทยไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน
น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้รับการประสานขอความช่วยเหลือมาเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่ามีหญิงสาวถูกล่อลวงไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน และขณะนี้ได้พากันหลบหนีออกมาจากแหล่งค้าบริการที่บาห์เรนได้แล้วจำนวน 4 ราย ยังไม่มีที่พัก ซึ่งทุกคนกลัวแก๊งค้ามนุษย์ตามมาเจอและถูกฆ่า จึงสั่งการให้ เอกภพ เหลืองประเสริฐ พร้อมทีมงาน ประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อติดต่อผู้เสียหายให้ได้โดยเร็วที่สุด ได้แก่ ฐานิศร์ ณ สงขลา เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศบาห์เรน ให้เจ้าหน้าที่สถานทูตประสานตำรวจบาห์เรนเข้าให้การช่วยเหลือคนไทยโดยเร็วที่สุด
“วันที่ 17 มกราคม 2564 ผู้เสียหายได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย และเข้าพักที่สถานที่กักตัวที่รัฐจัดขึ้น (State Quarantine) จนครบ 14 วัน และวันนี้ผมจึงได้พาผู้เสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พล.ต.ต. สยาม บุญสม ผบก.ปคม. เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในการพาผู้เสียหายไปบังคับค้าประเวณีในครั้งนี้” น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าว
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) หนึ่งในเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ตนตกงานช่วงวิกฤตโควิด-19 ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จึงได้เข้าไปค้นหาสมัครงานที่ลงไว้ในเฟซบุ๊ก ต่อมาเห็นมีข้อความรับสมัครพนักงาน ทำงานร้านนวดไทยที่ประเทศบาห์เรน โดยระบุว่ารายได้ดี เดือนละเกือบ 1 แสนบาท ตนสนใจและติดต่อพูดคุยผ่านทางแชต ทางนายหน้าแจ้งว่าเป็นงานนวดไทยเท่านั้น ที่ร้านไม่มีการค้าประเวณีใดๆ ทั้งสิ้น จึงถามต่อว่าตนไม่มีใบอบรมการนวดแผนไทยจะไปได้หรือไม่ นายหน้าบอกว่าไปได้ เมื่อไปถึงบาห์เรนจะต้องเข้าอบรมการนวดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก็จะสามารถทำงานได้ จึงหลงเชื่อและตกลงเดินทางไปทำงาน โดยนายหน้าแจ้งว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะหักจากเงินเดือนที่ได้รับโดยผ่อนชำระเป็นงวดๆ จึงตกลงและนัดวันเดินทาง แต่เมื่อเดินทางมาถึงประเทศบาห์เรน มีนายหน้าชาวบาห์เรนมารับที่สนามบินพาไปที่พัก และวันต่อมาถูกยึดพาสปอร์ต บังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ทำจะต้องเสียเงิน 1.3 แสนบาท ซึ่งแม่เล้าที่บาห์เรนอ้างว่าได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาผ่านนายหน้าไปแล้ว หากไม่มีเงินคืนก็จะต้องทำงานรับลูกค้า หากไม่ทำจะถูกทุบตีทรมานจนถึงแก่ความตาย
“เหมือนตกนรกทั้งเป็น และพยายามคิดหาหนทางหนีอยู่ทุกวัน แต่ไม่มีโอกาส เพราะเด็กที่มาใหม่จะถูกคุมและมีคนเฝ้าตลอดเวลา เพราะแม่แทคกลัวว่าจะหลบหนี จึงต้องยอมนอนกับลูกค้าทุกวัน มีบางวันต้องรับลูกค้านับ 10 ราย โดยไม่ได้รับเงินใดๆ ทั้งสิ้น แม่แทคอ้างว่าหักค่าห้องพัก ค่าซักผ้าเช็ดตัว ค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ หักเงินจนหมด ไม่เหลือ”
น.ส.เอ เล่าต่อว่า ตนไม่โวยวายเพื่อให้แม่เล้าคิดว่าตนจะไม่หนีแล้ว ต่อมาแม่เล้ายอมให้ตนใช้โทรศัพท์ได้ ยอมให้ตนออกไปข้างนอกได้ จนกระทั่งสบโอกาส ตนจึงนัดกับคนอื่นๆ อีก 3 คน พากันหลบหนีออกมา แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากครอบครัว
จากนั้น น.อ. อนุดิษฐ์ ติดต่อมาให้ความช่วยเหลือ และประสานงานกันโดยตลอด จนกระทั่งได้กลับประเทศไทยในวันนี้ จึงขอขอบคุณทั้งสองท่านและขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยประจำประเทศบาห์เรนที่ให้การช่วยเหลือดูแลตนพร้อมคนไทยทุกคนที่ตกทุกข์ได้ยากเป็นอย่างดีในครั้งนี้ด้วย
น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวอีกด้วยว่า เรื่องนี้ตนยอมไม่ได้เด็ดขาด เนื่องจากขบวนการค้ามนุษย์อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายตกงานจากภาวะวิกฤตโควิด-19 ระบาด เหยียบย่ำคนไทยด้วยกันเอง แทนที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามที่คนไทยทั้งประเทศกำลังลำบาก ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. จะสามารถลากคอแก๊งค้ามนุษย์กลุ่มนี้มาดำเนินคดีได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน โดยในเบื้องต้นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ติดตามให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายนำกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายสถานทูตไทยประจำประเทศบาห์เรน, บก.ปคม., กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ได้ประสานความร่วมมือกัน จนสามารถนำผู้เสียหายกลับประเทศได้ในเวลารวดเร็ว
“ผมขอฝากไปยังหญิงไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศ ขอให้ท่านได้เข้าสู่ระบบการจัดหางานอย่างถูกกฎหมาย เพื่อลดการถูกล่อลวง เพราะในขณะนี้ทราบจาก ผบก.ปคม. ว่ามีขบวนการค้ามนุษย์ทั้งในแถบประเทศตะวันออกกลางและเอเชียผ่านการประกาศรับหางานจากช่องทางโซเชียลต่างๆ” น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าว
น.อ. อนุดิษฐ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากใครพบเห็นหญิงไทยถูกบังคับค้าประเวณี สามารถแจ้งมายังตนได้ทันทีที่เพจเฟซบุ๊ก ‘น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ’ พร้อมทั้งเรียกร้องให้กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ขยายผลเอาผิดต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล