วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงกรณีที่ถูก ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล โจมตีการทำ IO ของรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนของกรมประชาสัมพันธ์ว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่เคยสั่งการใดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะสั่งการมาที่ตนในฐานะดูแลกรมประชาสัมพันธ์หรือสั่งกรมประชาสัมพันธ์ แต่สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติของการทำงานของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์เป็นสื่อของรัฐ ใช้ภาษีของรัฐ เป็นสื่อของรัฐที่จะชี้แจงข้อมูลหรือเสนอข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน ทั้งในส่วนนโยบายของรัฐ และข้อมูลที่ต้องให้ประชาชนรู้ความเคลื่อนไหวที่รัฐบาลกำหนดขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชน หรือทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคม
อนุชาชี้แจงต่อไปว่า ประเด็นที่เป็นข้อเท็จจริง ประเด็นที่เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ หรือประเด็นที่ออกไปแล้วมีผลต่อความรู้สึกของประชาชนในวงกว้าง เช่น วัคซีนที่มีบางคนหรือบางเพจระบุว่า วัคซีนบ้านเราจะไม่ได้หรือไม่มี ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงแล้วว่า วัคซีนเราต้องได้แน่ๆ แบบนี้กรมประชาสัมพันธ์ต้องชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือด้านใดที่ทำให้สังคมสับสน โดยตนได้ย้ำกับอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่า ต้องเป็นกลางที่สุด และข้อมูลที่ส่งถึงประชาชนต้องเป็นจริง อย่าใส่ไข่ อย่าใส่สีตีไข่เด็ดขาด ขอย้ำว่าเป็นกลางแน่ๆ
“ผมขอยืนยันว่ารายการต่างๆ ในกรมประชาสัมพันธ์นั้นมีจริง ซึ่งก็มีทั้งผู้สื่อข่าวภายนอกและผู้สื่อข่าวภายใน และในสังคมผู้สื่อข่าวมีหลายความคิด หลายความเห็นและความแตกต่าง และในสมัยนี้ ยุคข้อมูลข่าวสารไม่จำเป็นต้องมีสื่อหลักอย่างเดียว และเราไม่สามารถไปกำหนดความคิดเห็นของเขา แต่การมีวิจารณญาณเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ตัวผม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คงไม่มีอำนาจไปสั่งการให้ผู้สื่อข่าวนั้นทำในสิ่งที่ผิดจรรยาบรรณของสื่อ แต่ไม่ว่าสื่อไหนเขาย่อมมีจรรยาบรรณของตัวเอง เหนืออื่นใด เขาต้องมีความคิดความเห็นของตัวเอง และรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำ แต่ทั้งนี้ ตั้งแต่มีรายการข่าวมายังไม่มีผู้ได้รับความเสียหายหรือมีการฟ้องร้องแต่อย่างใด ขอให้มั่นใจได้ว่า กรมประชาสัมพันธ์พยายามทำหน้าที่สื่อของรัฐที่เป็นกลาง และให้ประชาชนรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แน่นอน” อนุชากล่าว
ขณะเดียวกัน อนุชายังชี้แจงด้วยว่า ตนเองเป็นเพื่อนกับ พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งถูกอภิปรายพาดพิงถึงกรณีผังล้มเจ้าว่า อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์กุเรื่องผังล้มเจ้าขึ้นมานั้น ตนได้ฟังคำชี้แจงจากอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ สิ่งที่ท่านได้ถูกดำเนินคดีจากบุคคลคนหนึ่งในชั้นศาล และบุคคลนั้นได้ถอนฟ้องแล้ว และถ้าหากเป็นเรื่องจริงว่าท่านกุเรื่องล้มเจ้า จะถอนฟ้องทำไม และอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ไม่เคยแถลงเลยว่ายอมรับว่าท่านกุเรื่อง และเรื่องนี้มีบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลล้มเจ้า และบุคคลนั้นเกี่ยวพันกับท่านหรือไม่ไม่ทราบ แต่แนวโน้มจะเป็นจริงตามนั้นหรือไม่ ท่านนั้นได้ไปพูดในชั้นกรรมาธิการงบประมาณปี 2564 และได้อ่านคำชี้แจงของอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ไม่มีข้อความว่าอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ยอมรับเลย จึงอยากจะอธิบายแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ที่ไม่มีโอกาสมาตอบชี้แจงกับท่าน
อนุชาชี้แจงในตอนท้ายว่า เรื่องการส่งไลน์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ได้รับคำสั่งหรือช่วยเหลือพรรคใดพรรคหนึ่งก็ดี ท่านยอมรับว่าส่งไลน์ไป แต่ไม่รู้ว่าแผ่นใด แต่บังเอิญว่าท่านเห็นหัวข้อพรรคพลังประชารัฐ จากนั้นอีก 28 นาที จึงได้รีบลบออก ซึ่งนโยบายพรรคพลังประชารัฐก็ล้อไปกับนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ท่านไม่ได้สั่งให้ดำเนินการ นี่เป็นความผิดพลาด ไม่ได้ตั้งใจหรือเจตนาทำเช่นนั้น และพรรคพลังประชารัฐไม่เคยคุยกับอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ในเรื่องของพรรคแม้แต่นิดเดียว พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่จะปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ด้วยชีวิตเช่นเดียวกับท่าน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล