อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า วิกฤตการระบาดของโควิด-19 เป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ช่วงหลัง
ในระหว่างเปิดตัวรายงาน UN ว่าด้วยแนวโน้มผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจสังคม ณ สำนักงานใหญ่ UN ในนิวยอร์กซิตี้ กูเตอร์เรสกล่าวว่า โรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังโจมตีสังคมที่แกนกลาง คร่าชีวิตผู้คนและส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชากรทั่วโลก
“โควิด-19 เป็นบททดสอบที่ใหญ่ที่สุดที่เรากำลังเผชิญด้วยกันนับตั้งแต่การก่อตั้งสหประชาชาติ” กูเตอร์เรสกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมมือกันตอบสนองด้วยมาตรการสาธารณสุขเพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรค
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกขณะนี้ใกล้แตะ 850,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 41,000 ราย โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตสะสมในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสูงกว่า 3,600 ราย แซงหน้าจีนที่เป็นประเทศที่ค้นพบไวรัสเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะที่สเปนมีผู้เสียชีวิต 849 รายในรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นยอดสูญเสียที่มากที่สุดภายในวันเดียว
กูเตอร์เรสยังเรียกร้องให้ชาติอุตสาหกรรมก้าวหน้าให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา มิเช่นนั้นอาจต้องเผชิญกับฝันร้ายจากไวรัสที่แพร่ระบาดเหมือนกับการลุกลามของไฟป่า
ทั้งนี้ UN ประเมินว่าวิกฤตการระบาดของโควิด-19 อาจทำให้ประชากรทั่วโลกตกงานมากถึง 25 ล้านคน นอกจากนี้ยังสร้างแรงกดดันต่อกระแสการไหลเวียนของการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศที่อาจลดลงถึง 40%
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: