×

ทัพภาค 4 แถลงจับยาเสพติดรายใหญ่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยึดของกลางกว่า 50 ล้านบาท

โดย THE STANDARD TEAM
29.06.2020
  • LOADING...

วันนี้ (29 มิถุนายน) เวลา 10.00 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด พร้อมตรวจยึดของกลางในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย พล.ต.ท. ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปราม ยาเสพติด (ผบช.ปส.) พล.ต.ท. รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พล.ร.ต. สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้

 

สำหรับรายละเอียด สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ได้แก่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ติดตามบังคับใช้กฎหมายกับผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ทราบชื่อ กอเซ็ง เจะหะ อยู่ที่อำเภอรามัน จังหวัดยะลา พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือ ยาไอซ์ น้ำหนัก 250 กิโลกรัม บริเวณด่านตรวจความมั่นคงบ้านควนมีด ตำบลคลองเปียะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา

 

เหตุเกิดขณะที่กอเซ็งขับรถบรรทุกสิบล้อ พร้อมซุกซ่อนยาไอซ์บริเวณกระบะท้าย เข้ามายังด่านตรวจความมั่นคงบ้านควนมีด ซึ่งมีลักษณะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถพร้อมทำการตรวจสอบโดยละเอียด พบถุงปุ๋ยสีขาวจำนวน 12 กระสอบ ข้างในบรรจุยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 250 กิโลกรัม จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อสอบสวนขยายผล เชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

 

ผลจากการซักถามผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าไอซ์ดังกล่าวเป็นของตนเอง มีมะดิง รูเป๊ะ เป็นผู้ว่าจ้าง โดยไปรับยาไอซ์มาจากอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวกอเซ็ง ผู้ต้องหามาควบคุมตัว เพื่อดำเนินการขยายผลในการจับกุมมะดิง รูเป๊ะ ตามที่ให้การซักทอด โดยได้ให้กอเซ็งติดต่อกับมะดิงเพื่อรับส่งยาเสพติด และให้ติดต่อกับบุคคลที่เรียกว่า บาบอ ทราบชื่อภายหลังคือ ยูโซ๊ะ กามา และได้นัดหมายรับยาเสพติดบริเวณแยกลำพู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส และในเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ได้จับกุมยูโซ๊ะได้ในขณะที่มารับยาเสพติดในบริเวณดังกล่าว และได้นำตัวไปตรวจค้นบริเวณบ้านพัก ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

 

ผลการตรวจค้นพบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบหนึ่งรายการ คือรถยนต์มิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆก-4139 กรุงเทพฯ 

 

จากนั้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน เวลา 23.15 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุม มะดิง รูเป๊ะ ขณะกำลังจะหลบหนีได้บริเวณหน้าบ้านในจังหวัดนราธิวาส หลังจากจับกุมได้ทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านภรรยาคนที่ 1 ของมะดิง ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม จึงได้ทำการตรวจสอบเก็บข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบจำนวน 5 รายการ 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักไม่มีเลขที่ในพื้นที่ในตำบนานาค อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านภรรยาคนที่ 2 ของมะดิง ได้ทำการตรวจสอบเก็บข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และเข้าตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบจำนวน 6 รายการ 

 

ในวันเดียวกัน เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านอีกหลัง ซึ่งเป็นบ้านของนุรซุรีซา ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม จึงได้ทำการตรวจสอบเก็บข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และเข้าตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบจำนวน 7 รายการ 

 

การปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากเครือข่ายกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายยาเสพติดที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ทำการสืบสวนและมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับเครือข่ายกลุ่มนักค้ายาเสพติดทางภาคใต้ที่มีข้อมูลอยู่ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีสถานการณ์โควิด-19 ระบาด มีการออกมาตรการล็อกดาวน์ ปิดด่านพรมแดนระหว่างประเทศของรัฐบาล ซึ่งทำให้นักค้ายาเสพติดได้หันไปส่งยาเสพติดทางระบบโลจิสติกส์ และเมื่อสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายลง การขนส่งมีความสะดวกขึ้น 

 

ทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงได้เพิ่มความเข้มข้นและให้ความสำคัญในการสกัดการลำเลียงยาเสพติด และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบรถในกลุ่มเป้าหมายมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว จึงทำการสืบสวนและติดตามจนนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้ 

 

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเคยต้องโทษในคดียาเสพติด โดยได้รู้จักกันในเรือนจำสงขลา และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 5 ปี และเมื่อออกจากเรือนจำก็ยังมีการกระทำความผิดซ้ำแบบเดิมอีก

 

พฤติการณ์กลุ่มนักค้ายาเสพติดกลุ่มนี้จะใช้รถบรรทุกขึ้นไปรับยาเสพติดและลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ปริมณฑลเพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยรับค่าจ้างครั้งละ 1 ล้านบาท จากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 สามารถขยายผลนำไปสู่การยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท โดยมีทั้งรถยนต์ รถบรรทุก โฉนดที่ดิน ทองคำ โดยหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบการได้มาซึ่งทรัพย์สิน และขยายผลเส้นทางการเงินของคนกลุ่มนี้ต่อไป

 

พล.ท. พรศักดิ์ กล่าวว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ให้หมดสิ้นไป รวมถึงมาตรการทางกฎหมายกับผู้ค้ารายใหญ่ จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ ควบคู่กับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด โดยจัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนเข้าพบปะผู้นำสี่เสาหลักเพื่อขอความร่วมมือในการชักชวนผู้ติดสารเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพอย่างต่อเนื่อง 

 

หากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสยาเสพติด หรือผู้ต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 06 1173 2999 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X