เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ CNN จัดทำรายงานพิเศษรวบรวมความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อภาพรวมสถานการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในห้วงเวลานี้ ตลอดจนแนวโน้มในปีหน้า โดยความเห็นส่วนใหญ่สรุปตรงกันว่า ปี 2020 เป็นปีที่น่าจดจำในแง่ที่ว่า รัฐบาลในหลายประเทศชั้นนำต่างหมดความอดทนกับพฤติกรรมของเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ยอมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามที่เคยรับปากไว้เสียที
รายงานระบุว่า ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป หรือแม้กระทั่งจีน ต่างยกระดับมาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นอิทธิพลของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ข้ามชาติเหล่านี้ และการดำเนินการดังกล่าวจะลากยาวไปจนถึงปีหน้า
โดยเมื่อไม่นานมานี้ทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพิ่งจะฟ้อง Facebook และ Google มีพฤติกรรมผูกขาด ต่อต้านการแข่งขันในตลาดออนไลน์ ขณะที่ในยุโรปก็มีการปรับกฎหมายที่จะเปิดทางให้นักการเมืองและเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการจัดการบริษัทเทคโนโลยีได้หากเข้าข่ายต้องสงสัย
ข้ามมาที่จีนที่ทางการเพิ่งจะประกาศเดินหน้าสอบสวนพฤติกรรมผูกขาดของอาลีบาบาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตลอดจนสั่งระงับการออก IPO ของ Ant Group บริษัทในเครืออาลีบาบา
แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมจำกัดอิทธิพลของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นสิ่งที่รัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกพยายามทำมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการลงโทษด้วยการสั่งปรับอย่างหนัก หรือความพยายามแก้ไขปรับปรุงกฎหมายปกป้องข้อมูล แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถปรามบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ เป็นเหตุให้บรรดานักการเมืองในหลายประเทศต่างส่งสัญญาณที่จะยกระดับความเข้มงวดให้มากขึ้น เพื่อปกป้องตลาดและขัดขวางการใช้คอนเทนต์ไปในทางอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่นวัตกรรมของบริษัทเหล่านี้ได้รับการพัฒนาไปไกลจนล้ำหน้ามากขึ้น จนทำให้สามารถควบคุมปริมาณเนื้อหา โฆษณา หรือข้อมูลส่วนบุคคล ได้โดยง่าย
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ยังมองว่า แม้จะเร่งดำเนินการเพื่อจัดการบริษัทเทคโนโลยีเหมือนกัน แต่รัฐบาลของแต่ละประเทศก็มีเป้าหมายที่ต่างกัน โดยขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ และยุโรป มุ่งจำกัดอิทธิพลของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม แต่รัฐบาลจีนกลับมีเป้าหมายในการมุ่งควบคุมและจัดระเบียบบริษัทเทคโนโลยีในแดนมังกรเป็นหลัก
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: