นักวิเคราะห์ชี้ แรงซื้อกลับหุ้นไทยอาจเป็นสัญญาณจบรอบปรับฐานระยะสั้น จากความกังวลดอกเบี้ยขาขึ้นไปแล้ว

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วันนี้ (27 มกราคม) ดัชนี SET ปิดตลาดที่ 1,634.17 จุด ลดลง 9.27 จุด หรือ 0.56% โดยระหว่างวันดัชนีลดลงไปต่ำสุดที่ 1,617.87 จุด หรือลดลง 25.57 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา

การปรับตัวลงของตลาดในช่วงแรกเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากที่ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมาในคืนวันพุธ ตามเวลาประเทศไทย

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการประชุม Fed อาจจะไม่ได้ส่งผ่านมายังตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยและการลดวงเงิน QE แต่ประเด็นที่อาจจะกระทบในระยะถัดไปคือการลดขนาดงบดุล (Balance Sheet) ซึ่งจะกระทบต่อสภาพคล่องในตลาด แต่ประเด็นนี้ก็ยังไม่ได้มีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบในท้ายที่สุดก็อาจจะไม่มากนัก เพราะโครงสร้างของตลาดหุ้นไทย ซึ่งประมาณ 1 ใน 3 เป็นหุ้นโภคภัณฑ์ และอีก 1 ใน 3 เป็นกลุ่มหุ้น Old Economy โดยหุ้นกลุ่มนี้ยังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ

“เชื่อว่าหุ้นกลุ่ม Old Economy จะเผชิญกับแรงขายที่น้อยกว่าจากนโยบายของ Fed และอาจจะเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาด้วย ขณะที่แรงซื้อกลับที่เกิดขึ้นในวันนี้อาจจะเป็นสัญญาณว่าตลาดหุ้นไทยผ่านจุดต่ำสุดของการปรับฐานจากความกังวลในเรื่องของนโยบายการเงินไปแล้ว”

เทิดศักดิ์กล่าวว่า แม้จุดต่ำสุดจะผ่านไปแล้ว แต่ปัจจัยที่อาจจะกดดันให้ตลาดไม่สามารถฟื้นตัวได้แรงคือ เรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ นอกจากความเสี่ยงใหญ่ที่สุดคือรัสเซียและยูเครน ยังมีประเด็นในลักษณะนี้กระจายอยู่หลายจุด เช่น คาบสมุทรเกาหลี จีน และไต้หวัน หรือ UAE และกลุ่มกบฏ เป็นต้น

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH