หลังจากเกิดความกังวลเรื่องผลกระทบด้านความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวไทย ซึ่งส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่บางส่วนมองว่าลดลงอย่างผิดปกตินั้น THE STANDARD ตรวจสอบข้อมูลของทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยนั้นมีจำนวนสะสม 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ของปี 2561 กว่า 8.37 ล้านคน มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 9.81 แสนคน หรือคิดเป็น 13.28% โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนคิดเป็นสัดส่วน 29.34% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 4.6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของรายได้จากการท่องเที่ยวของต่างชาติทั้งหมด
หากพิจารณาตัวเลขย้อนหลังไปถึงปี 2555 ซึ่งเป็นปีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มเดินทางมาไทยมากขึ้นจากปรากฏการณ์ของภาพยนตร์ Lost in Thailand ที่โด่งดังแล้วจะพบว่า ช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเป็นปกติอยู่แล้ว จากนั้นจะทรงตัวในเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นปีใหม่ และจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3 ของแต่ละปี ดังนั้นจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจึงไม่ถือเป็นวิกฤตการณ์การท่องเที่ยวอย่างที่บางส่วนเข้าใจ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจำแนกนักท่องเที่ยวจีนออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1. กลุ่มทัวร์จีนสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางน้อยกว่า 2 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือราว 6.6 แสนบาทต่อปี 2. กลุ่มทัวร์จีนสำหรับผู้มีรายได้สูงหรือมากกว่า 2 หมื่นเหรียญสหรัฐขึ้นไป และ 3. กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่วางแผนและเดินทางมาเที่ยวด้วยตัวเอง (Foreign Individual Tourism: FIT) จากสถิติพบว่า กลุ่มทัวร์จีนสำหรับนักท่องเที่ยวรายได้ปานกลางมีจำนวนลดลงตั้งแต่ปลายปี 2559 ที่ผ่านมาอยู่แล้ว ขณะที่กลุ่มทัวร์จีนสำหรับผู้มีรายได้สูงยังทรงตัว ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT ยังเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงครึ่งปีแรกนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 2561) พบว่า จะท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครมากที่สุด คิดเป็น 61.17% รองลงมาคือชลบุรี 31.18% ตามด้วยภูเก็ต 24.83% เชียงใหม่ 18.37% และกระบี่ 10.64% โดยนักท่องเที่ยวจีนถึง 62% มั่นใจว่าจะเดินทางกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง
จากตัวเลขดังกล่าวคาดว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนตลอดทั้งปี 2561 ไม่น่าจะคลาดเคลื่อนจากเป้าหมายที่เดิมตั้งเอาไว้ที่ 10 ล้านคนมากนัก แม้จะเกิดเหตุการณ์เรือล่มภูเก็ตที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยก็ตาม สิ่งที่เป็นเรื่องท้าทายสำคัญคือ ปัจจัยภายนอกเรื่องเศรษฐกิจจีนที่อ่อนไหวจากประเด็นสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว ณ ท่าอากาศยานสำคัญของไทย รวมทั้งการบริหารจัดการที่ดีเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวยังเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอยู่เสมอ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- www.mots.go.th/more_news.php?cid=502&filename=index
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
