เพียงแค่เห็นชื่อของสองนักแสดงนำอย่าง เคต วินสเลต ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 7 ครั้ง ก่อนที่จะคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาได้สำเร็จจาก The Reader (2008) และ เซียร์ชา โรแนน เจ้าของรางวัล Golden Globes ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลกจาก Lady Bird (2017) ก็คงจะพอการันตีความเข้มข้นของ Ammonite ภาพยนตร์ชีวประวัติของ แมรี แอนนิง นักบรรพชีวินวิทยาหญิงผู้ถูกลืมเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
และเมื่อรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จนจบ เราเป็นอีกหนึ่งเสียงช่วยการันตีว่านี่คือผลงานการแสดงอันลุ่มลึกที่แฟนๆ ของวินสเลตและโรแนนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวในช่วงศตวรรษที่ 19 ของ แมรี แอนนิง (เคต วินสเลต) นักบรรพชีวินวิทยาหญิงผู้ทำงานอย่างโดดเดี่ยวบนชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ เธอประทังชีวิตด้วยการค้นหาฟอสซิลทุกวันเพื่อขายให้กับนักท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กับการดูแลแม่ที่กำลังป่วย
จนกระทั่งวันหนึ่งนักท่องเที่ยวผู้ร่ำรวยเดินทางมาหาแมรีเพื่อขอให้เธอดูแล ชาร์ล็อต เมอร์ชิสัน (เซียร์ชา โรแนน) ภรรยาที่ป่วยเป็นโรคใจลอย สามีของชาร์ล็อตได้ยื่นข้อเสนอที่แมรีไม่อาจปฏิเสธได้ เธอจึงรับชาร์ล็อตมาในฐานะเด็กฝึกงาน และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่พวกเธอต้องแอบซ่อนเอาไว้จากสังคม
หากมองในภาพรวม Ammonite ค่อนข้างจะเป็นภาพยนตร์ดราม่าที่เฉพาะกลุ่มอยู่พอสมควร ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่เรียบนิ่งและเนิบช้ามากๆ ไม่ค่อยมีจุดที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นระทึกไปกับเรื่องราวเท่าไรนัก แต่เพราะความเรียบนิ่งและเนิบช้าเหล่านี้ กลับพาเราเข้าไปสำรวจทุกห้วงอารมณ์ของสองตัวละครหลักอย่างลึกซึ้ง
เริ่มตั้งแต่การฉายภาพของแมรี ที่แม้ว่าเธอจะเป็นนักบรรพชีวินวิทยาผู้มีความรู้รอบด้านเพียงใด แต่ด้วยความยากจนและการเป็นเพศหญิงในช่วงเวลาสังคมชายเป็นใหญ่ ทำให้เธอถูกลดคุณค่าและเอาเปรียบอยู่เสมอ จนกลายเป็นเรื่องชินชาที่เธอเลิกใส่ใจ และหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลแม่ที่กำลังป่วย
อีกด้านหนึ่ง ชาร์ล็อต หญิงสาวที่แต่งงานกับหนุ่มผู้ดีอังกฤษ แต่ดูเหมือนว่าชีวิตของเธอกลับไม่ได้มีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น และทำให้เธอกลายเป็นโรคใจลอย ใช้ชีวิตอย่างหมองหม่นไร้ความสุข
ซึ่งวินสเลตและโรแนนต่างถ่ายทอดการแสดงที่น้อยแต่มากไปด้วยความรู้สึกของทั้งสองตัวละครออกมาได้อย่างลุ่มลึก ทั้งสีหน้าที่เรียบนิ่ง น้ำเสียงที่พูดออกมา และแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึก การแสดงของพวกเธอไม่ได้ทำให้เราเชื่อว่าพวกเธอกำลังสวมบทบาทเป็นแมรีและชาร์ล็อตเพียงอย่างเดียว แต่พวกเธอยังทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกร่วมไปกับสถานการณ์ที่ทั้งสองตัวละครกำลังเผชิญ
Ammonite จึงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ฉายภาพเรื่องราวความรักต้องห้ามของแมรีและชาร์ล็อตอย่างที่ตัวอย่างนำเสนอเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนภาพชีวิตและความรู้สึกของแมรีและชาร์ล็อตซึ่งมีสถานะที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่ต้องเผชิญกับการถูกเอาเปรียบและถูกกดทับคุณค่าของตัวเองลงท่ามกลางสังคมชายเป็นใหญ่เช่นเดียวกัน
แม้ว่าสังคมในปัจจุบันจะเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นความเท่าเทียบในสังคมและการรักเพศเดียวกันมากขึ้นกว่าในอดีตแล้วก็ตาม แต่การที่ Ammonite หยิบเรื่องราวของแมรีและชาร์ล็อตที่ใช้ชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 มาถ่ายทอดให้เราได้รับชม ก็เพื่อทำหน้าที่ย้ำเตือนให้ผู้คนในปัจจุบันไม่หลงลืมประวัติศาสตร์ของการกดขี่ในสังคมชายเป็นใหญ่ เพื่อให้เราได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นดังกล่าวอยู่เสมอ
และเพื่อไม่ให้ใครต้องเผชิญหน้ากับการกดขี่และถูกเอาเปรียบเฉกเช่นแมรีและชาร์ล็อตอีกต่อไป
Ammonite เข้าฉายอย่างเป็นทางการวันที่ 24 ธันวาคมนี้ เฉพาะโรงภาพยนตร์ House Samyan เท่านั้น
สามารถรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
