จำใจหยุดซื้อแพ็กเกจสตรีมมิง-เที่ยวน้อยลง นี่คือสิ่งที่วัยรุ่น อเมริกัน ต้องทำ หลังเครียดหนัก! จากแรงกดดันค่าครองชีพพุ่งสวนทางรายได้ วิ่งวุ่นหา อาชีพเสริม กลัวรายได้ไม่พอจ่าย แต่งานก็ไม่ได้หาง่ายอย่างที่คิด
ถึงวันนี้ภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงวิกฤต โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 3% ราคาพลังงานมีความผันผวน สินค้ามีราคาแพงขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้ผู้คนมีกำลังซื้อลดลง แถมรายได้ที่เคยมีก็ไม่เพียงพอกับการยังชีพอีกด้วย
แน่นอนว่าทำให้ชาวอเมริกันกว่า 39% ที่มีอาชีพประจำเริ่มมองหาอาชีพเสริม เพราะกลัวรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนใหญ่แล้วชาวอเมริกันวัยทำงานมากกว่าครึ่ง มีรายได้น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์ต่อปี นอกจากจะหาอาชีพเสริมแล้ว สิ่งที่ทำควบคู่กันไปคือการลดรายจ่าย ไม่ขับรถออกจากบ้าน เที่ยวน้อยลง และพยายามไม่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- 3 สัญญาณเตือน! ที่ทำงานใหม่ Toxic หรือไม่? เช็กก่อนตกหลุมพราง อย่ารีบคว้าโอกาสใหม่จนลืมสังเกต
- อีเมล = Burnout? Gen Z เครียดหนักเมื่อเจออีเมลถล่มทลาย ชี้ ล้าสมัย-ไม่ทันใจ อยากได้การสื่อสารแบบเรียลไทม์
- งานวิจัยพิสูจน์แล้วว่า ประโยคที่ว่า ‘ยิ่งมีเงินมากยิ่งมีความสุขมาก’ เป็นเรื่องจริง แม้แต่มหาเศรษฐีก็คิดว่าเงินซื้อความสุขได้
Angela Russell นักวิเคราะห์ในโครงการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค กล่าวว่า ค่าครองชีพสูงขึ้นมาก ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าแฟชั่นต่างๆ ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกจำนวนมาก
ซึ่งต้องยอมรับว่าค่าครองชีพกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่ต้องเจอ สินค้าทุกอย่างมีราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 4 ปีที่ผ่านมา ที่ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าจะอยู่ที่ 925 ดอลลาร์ต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งทำให้คนในครอบครัวมีภาวะเครียดไปตามๆ กัน
“เรายอมลดความสุขของตัวเองลงเพื่อลดต้นทุนต่างๆ เริ่มจากการออกมาหาบ้านเช่าที่ห่างจากตัวเมือง เพราะมีราคาถูกกว่าบ้านที่อยู่ในเมือง รวมถึงยกเลิกการซื้อแพ็กเกจสตรีมมิง ไม่ไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ และกินขนมน้อยลง” Angela ย้ำ
ขณะที่ Greg McBride หัวหน้านักวิเคราะห์การเงินของ Bankrate กล่าวว่า ผลกระทบสะสมของอัตราเงินเฟ้อส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในครอบครัวอย่างมาก แม้ในความเป็นจริงอาจมีการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าราคาสินค้าจะลดลง เพียงแค่ช่วยควบคุมราคาสินค้าไม่ให้ปรับตัวขึ้นสูงมากก็แค่นั้น และเมื่อรายได้ไม่พอใช้จ่าย ทุกคนก็ต้องถูกบีบบังคับทางอ้อมด้วยการหารายได้เสริม
สอดคล้องกับโพลของ CNN ที่แสดงให้เห็นว่า วัยทำงานกว่า 35% ส่วนใหญ่ทำอาชีพเสริมหลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่งานส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หาง่ายอย่างที่คิด ด้วยการแข่งขันหางานที่สูงขึ้นมาก
อ้างอิง: