Amazon บริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เผยความสำเร็จในการเจรจาซื้อ MGM สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ชั้นนำระดับโลกที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาพยนต์ James Bond 007
โดยสถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า Amazon จ่ายเงินเข้าซื้อธุรกิจผลิตภาพยนตร์และความบันเทิงดังกล่าวด้วยมูลค่า 8,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 264,231 ล้านบาท นอกจากจะซื้อสตูดิโอผลิตภาพยนตร์แล้ว Amazon ยังได้ซื้อรายการโทรทัศน์ของทางค่ายไปด้วย ซึ่งแผนการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นการเข้าซื้อกิจการที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 นับตั้งแต่ที่อีคอมเมิร์ซแห่งนี้ดำเนินธุรกิจมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Amazon ได้ทุ่มเงินเกือบ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 438,000 ล้านบาท) เพื่อเข้าซื้อ Whole Foods กิจการซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของสหรัฐฯ ไปในปี 2017
รายงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความพยายามของ Amazon ที่ต้องการสยายปีกรุกคืบไปยังธุรกิจคอนเทนต์และสตรีมมิง เพื่อแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ของตลาดอย่าง Netflix, Disney+ และ AT&T กับ Discovery ที่เพิ่งจะประกาศควบรวมกิจการสื่อเข้าด้วยกันเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ความสำเร็จในครั้งนี้ส่งผลให้ Amazon สามารถเพิ่มรายการภาพยนตร์และรายการโชว์ทางโทรทัศน์ลงในแพลตฟอร์ม Prime Video ของทางบริษัท โดย MGM มีลิขสิทธิ์รายการภาพยนตร์ในการครอบครองดูแลมากกว่า 4,000 เรื่อง และรายการทีวีโชว์อีก 17,000 รายการ
ไมค์ ฮอปกินส์ หัวหน้า Prime Video และ Amazon Studios กล่าวว่า มูลค่าที่แท้จริงของการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ก็คือ ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์มากมายที่ทาง Amazon มีแผนจะร่วมมือทำงานกับ MGM เพื่อพัฒนาต่อยอดสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพต่อไป
ขณะที่ เจฟฟ์ เบโซส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Amazon กล่าวระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เหตุผลของการเข้าซื้อกิจการ MGM ครั้งนี้มีเพียงเหตุผลเดียวง่ายๆ ก็คือ MGM มีแคตตาล็อก ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ซึ่งเป็นขวัญใจของคนทั่วโลกมหาศาล ยิ่งเมื่อบวกกับทีมงานคุณภาพของทั้ง MGM และ Amazon Studios ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะนำ IP เหล่านั้นมาพัฒนาให้เหมาะกับศตวรรษที่ 21 ต่อไป
ทั้งนี้ Amazon และ MGM เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังรอคำอนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแลกิจการ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ Amazon จะกลายเป็นอาณาจักรธุรกิจที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม จากปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทที่ทรงอิทธิพลและมีมูลค่าสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอยู่แล้ว
แม้จะไม่มีการเปิดเผยจากทาง Amazon ว่ามีผู้ใช้บริการ Prime Video อยู่เท่าไร แต่อิงจากข้อมูลธุรกิจของ Amazon ระบุว่า ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกกว่า 200 ล้านราย ขณะที่ MGM ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของฮอลลีวูด ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1924 หรือประมาณ 97 ปีที่แล้ว และมีการขยายงานมาผลิตรายการโทรทัศน์ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการเรียลิตี้โชว์อย่าง Shark Tank และ The Real Housewives of Beverly Hills
ข่าวการปิดดีลซื้อกิจการ MGM ของ Amazon ในครั้งนี้ ยังมีขึ้นในวันเดียวกันกับที่ทาง เจฟฟ์ เบโซส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และผู้ก่อตั้ง Amazon ประกาศกำหนดวันอำลาตำแหน่งซีอีโอของตนเอง พร้อมส่งมอบหน้าที่บริหารให้แก่ แอนดี้ แจสซี ในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้
สำนักข่าว AP รายงานว่า เบโซส์ในวัย 57 ปี จะไม่ได้หลีกหนีไปไกลจาก Amazon เพราะเจ้าตัวจะเข้าไปนั่งในตำแหน่งทีมบอร์ดบริหารของบริษัท และรับหน้าที่ดูแลด้านผลิตภัณฑ์ใหม่และโครงการริเริ่มต่างๆ รวมถึงทุ่มเทความสนใจไปกับบริษัทอื่นๆ ที่ได้ลงทุนไป เช่น บริษัทผลิตยานอวกาศ Blue Origin และหนังสือพิมพ์ The Washington Post ตลอดจนเดินหน้าทำงานในด้านการกุศล
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: