แอนดี้ แจสซี (Andy Jassy) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ของ Amazon อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ต่อจาก เจฟฟ์ เบโซส์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์สเป็นครั้งแรกหลังกุมบังเหียนว่า เป้าหมายแรกสุดของการยกระดับ Amazon ให้ก้าวไปอีกขั้น ก็คือการเปิดรับพนักงานใหม่ในสายงานด้านเทคโนโลยีและการบริหารจัดการรวม 55,000 ตำแหน่งทั่วโลก ซึ่งเป็นจำนวนเทียบเท่ากว่า 1 ใน 3 ของพนักงาน Google และเทียบเท่าจำนวนพนักงานเกือบทั้งหมดของ Facebook
ทั้งนี้ แจสซีกล่าวว่า Amazon ต้องการกำลังคนมหาศาลเพื่อตอบสนองความต้องการทางเทคโนโลยีที่จะสนับสนุนธุรกิจค้าปลีก ระบบคลาวด์และการตลาด และการโฆษณาของบริษัท โดยรวมถึงบทบาทด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์การวิจัย และวิทยาการหุ่นยนต์
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนพัฒนาดาวเทียมเพื่อขยายการเข้าถึงบรอดแบนด์อย่าง Project Kuiper ดังนั้นจึงจำเป็นต้องการกำลังคนใหม่ๆ จำนวนมาก ก่อนย้ำว่าตำแหน่งงานเกือบทั้งหมดเป็นตำแหน่งงานใหม่ มากกว่าที่จะเป็นตำแหน่งงานที่เกิดขึ้นจากการลาออก
คำประกาศครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่งานจ๊อบแฟร์ประจำปีของ Amazon จะเริ่มต้นขึ้นตามกำหนดในวันที่ 15 กันยายนนี้ ซึ่งแจสซีคาดหวังว่าช่วงเวลาจัดงานนี้เป็นเวลาที่พอเหมาะพอเจาะที่ผู้คนทั้งในสหรัฐฯ และในที่ต่างๆ กำลังมองหางานทำอีกครั้งหลังการระบาดของโรคโควิด โดยจำนวน 55,000 ตำแหน่งนี้คิดเป็นสัดส่วน 20% จากจำนวนพนักงานของ Amazon ทั่วโลกที่มีอยู่แล้วราว 275,000 ตำแหน่ง
ในส่วนประเด็นอื้อฉาวเกี่ยวกับปัญหานโยบายด้านสวัสดิการและการดูแลพนักงานของ Amazon แจสซียอมรับว่า ทางบริษัทจำเป็นจะต้องยกเครื่องแนวคิดและวิสัยทัศน์ในเรื่องดังกล่าว โดย Amazon จะให้น้ำหนักไปที่การให้อิสระพนักงานในการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาให้เป็นไปในทิศทางบวก
รายงานระบุว่า จากตำแหน่งงานที่เปิดรับใหม่ทั้งหมดมากกว่า 40,000 ตำแหน่ง เป็นงานภายในสหรัฐอเมริกา ขณะที่ตำแหน่งที่เหลืออยู่ในประเทศอย่างอินเดีย เยอรมนี และญี่ปุ่น
อ้างอิง: