วันนี้ (17 พฤษภาคม) อลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้งรัฐบาลและการเลือกนายกรัฐมนตรีว่า พรรคประชาธิปัตย์ประกาศชัดเจนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะฟังเสียงของประชาชนในการเลือกตั้ง เพื่อกำหนดจุดยืนของพรรคหลังทราบผลการเลือกตั้ง ดังนั้นเมื่อประชาชนกว่า 14 ล้านคนเลือกพรรคก้าวไกลเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ทั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ
ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะเคารพเสียงของประชาชนด้วยการลงมติสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีเงื่อนไขร่วมรัฐบาล หากพรรคก้าวไกลสามารถรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้สำเร็จ โดยตนจะเสนอแนวทางนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า รวมทั้งแกนนำและสมาชิกพรรคทั่วทั้งประเทศ
อลงกรณ์ยังกล่าวต่อไปว่า ถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องช่วยผ่าทางตันที่อาจเกิดขึ้นในการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องใช้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาอย่างน้อย 376 เสียง เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วตามเจตนารมณ์ของประชาชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา
แม้พรรคประชาธิปัตย์จะโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาลพรรคก้าวไกล โดยยึดหลักการ 3 ข้อเป็นแนวทางการทำงานของพรรค ได้แก่
- พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
- ประชาธิปไตยสุจริต
- ประชาธิปไตยอิ่มท้อง แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน