Alibaba Group ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) สัญชาติจีน เผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ปี 2020 ตามปีงบประมาณการเงินของบริษัท ซึ่งตรงกับช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจนแตะระดับ 221,080 ล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ที่ 214,280 ล้านหยวน และคิดเป็นสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นที่ 37% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
โดยรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นของ Alibaba Group เป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าและบริการต่างๆ จากโลกออนไลน์มากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยอดขายในไตรมาสล่าสุดยังได้รับแรงกระตุ้นจากเทศกาลคนโสด
แดเนียล จาง ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alibaba ได้กล่าวถึงความสำเร็จของบริษัทว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจีนเอง
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จข้างต้นกลับไม่อาจทำให้นักลงทุนวางใจต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในอนาคตได้ เมื่อผู้ก่อตั้งเริ่มไม่เป็นที่รักของรัฐบาลจีน
โดยความสำเร็จของ Alibaba ยังมีขึ้นท่ามกลางชะตากรรมที่ไม่อาจคาดเดาได้ของ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาณาจักรค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของจีนแห่งนี้ โดยแม้เจ้าตัวจะสยบข่าวลือด้วยการปรากฏตัวสู่สาธารณชนผ่านคลิปวิดีโอสั้นๆ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่สถานะของ แจ็ค หม่า ในสังคมจีนดูจะถูกลดทอนความสำคัญลงอย่างมาก เห็นได้จากท่าทีของสื่อท้องถิ่นจีน
เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ Channel NewsAsia ของสิงคโปร์ รายงานตั้งข้อสังเกตว่าชื่อของ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba Group หลุดออกจากรายชื่อผู้ประกอบการชาวจีนชั้นนำที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในรายงานหน้าหนึ่งของ The Shanghai Securities News ทั้งๆ ที่เป็นนักธุรกิจชาวจีนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคนหนึ่ง โดยรายงานดังกล่าวระบุแค่ชื่อของ เหรินเจิ้งเฟย ประธาน Huawei, เหลยจุน ประธาน Xiaomi และหวังฉวนฝู แห่ง BYD เท่านั้น
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าความเคลื่อนไหวเล็กๆ นี้น่าจะเป็นหนึ่งในสัญญาณที่สะท้อนว่า แจ็ค หม่า เริ่มไม่เป็นที่โปรดปรานของรัฐบาลจีน จนสื่อของทางการจีนยังต้องเลี่ยงที่จะเอ่ยถึง
รายงานของ The Shanghai Securities News กล่าวว่าขณะที่ผู้ประกอบการบางรายที่เคยได้รับความชื่นชมในฐานะวีรบุรุษผู้พยายามแหวกขนบของระบบเศษฐกิจแบบดั้งเดิมที่เข้มงวด แต่ขณะนี้ผู้ประกอบการที่น่ายกย่องก็คือผู้นำกลุ่มบริษัทที่เคารพกฎเพื่อการพัฒนาและปฏิบัติตามระเบียบของตลาดเป็นหลัก
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: