สเตฟานี ควินน์-เดวิดสัน ประธานคณะกรรมการ Yukon River Inter-Tribal Fish ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่าเธอนำกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ลงพื้นที่บริเวณแม่น้ำโคโยคุกในอะแลสกาช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และพบปลาแซลมอนลอยตายเกลื่อนเป็นระยะทาง 200 ไมล์ รวม 850 ตัว แต่เธอคาดว่าจำนวนปลาที่ตายอาจจะมีมากกว่านี้ 4-10 เท่า ในแม่น้ำที่มีความยาวกว่า 500 ไมล์
ทีมนักวิทยาศาสตร์ไม่พบพยาธิ ปรสิต หรือการติดเชื้อ แต่กลับพบไข่ในสภาพที่ดีในท้องปลาแซลมอนเกือบทุกตัว ซึ่งตามปกติแล้วปลาแซลมอนจะตายหลังจากวางไข่ ดังนั้นควินน์-เดวิดสันจึงได้ข้อสรุปว่าคลื่นความร้อนหรือฮีตเวฟอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปลาแซลมอนเหล่านี้ตาย เพราะปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุม
ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ติดตามอุณหภูมิรอบพื้นที่คุกอินเล็ต ทางใต้ของแองเคอเรจ มาตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยบันทึกอุณหภูมิได้สูงเกิน 24 องศาเซลเซียสมาก่อน แต่เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมซึ่งพบแซลมอนตายเกลื่อนทางฝั่งตะวันตกของเขตคุกอินเล็ต วัดอุณหภูมิได้ 27.6 องศาเซลเซียส
ซู เมาเจอร์ ผู้อำนวยการองค์กร Cook Inlet Keeper กล่าวว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของปลาแซลมอนในหลายด้าน ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำ ซึ่งในทางกายภาพจะส่งผลต่อระดับออกซิเจนในน้ำ หากอุณหภูมิสูงขึ้นจะทำให้ออกซิเจนไม่เพียงพอสำหรับพวกมันในการวางไข่ ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงตายไปพร้อมกับไข่สภาพดีในท้องของมัน
นอกจากนี้ประชากรแซลมอนยังถูกคุกคามจากการจับปลาเกินขนาดในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของแคนาดาและตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐวอชิงตันด้วย ซึ่งส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อจำนวนประชากรวาฬเพชฌฆาตซึ่งกินแซลมอนเป็นอาหาร โดยช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนวาฬชนิดดังกล่าวลดลงอย่างต่อเนื่อง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: