วานนี้ (30 สิงหาคม) สถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองในอิรัก บานปลายกลายเป็นการปะทะเดือดกลางกรุงแบกแดด เมืองหลวงของประเทศ หลัง มุกตาดาร์ อัล-ซาดร์ ผู้นำคนสำคัญของมุสลิมนิกายชีอะห์ ประกาศถอนตัวจากเกมการเมืองอิรัก เป็นเหตุให้บรรดากลุ่มผู้สนับสนุนลุกฮือบุกเข้ายังอาคารรัฐสภาในเขตกรีนโซน ก่อนที่ผู้สนับสนุนและกองกำลังสันติภาพที่ภักดีต่ออัล-ซาดร์จะปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ และทหารกองหนุนที่สนับสนุนอิหร่าน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 23 ราย
อิรักติดหล่มทางการเมือง นับตั้งแต่การเลือกตั้งที่ไม่ชี้ชัดเมื่อปี 2021 แม้ว่าพรรคร่วมที่มุกตาดาร์ อัล-ซาดร์ สังกัดอยู่จะได้เก้าอี้ในสภาไปได้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามเขาปฏิเสธที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ร่วมกันกับบรรดาพรรคการเมืองที่สนับสนุนแนวนโยบายที่เป็นมิตรต่ออิหร่าน โดยอัล-ซาดร์ต้องการที่จะยุติวังวนที่สหรัฐอเมริกาและอิหร่านมีอิทธิพลอย่างมากต่อกิจการภายในอิรักในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
โดยอิรักเผชิญหน้ากับความไร้เสถียรภาพ และการเพิ่มจำนวนขึ้นของบรรดากลุ่มกองกำลังติดอาวุธ นับตั้งแต่ปี 2003 หลังอดีตผู้นำเผด็จการจากนิกายซุนนีอย่าง ซัดดัม ฮุสเซน ถูกโค่นอำนาจลง ด้วยการให้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ และเปิดโอกาสให้มุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของอิรักกลับขึ้นมามีอำนาจและบริหารประเทศ
อัล-ซาดร์ได้รับคะแนนนิยมอย่างมาก หลังจากที่รัฐบาลฮุสเซนถูกโค่นล้ม มุสลิมนิกายชีอะห์ที่เคยถูกนิกายซุนนี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มน้อยในอิรักปกครองและกดขี่จากระบบการเมืองในอดีต ต่างให้การสนับสนุนเขา ในฐานะผู้นำที่ต้องการจะเข้ามาปฏิรูปการเมืองอิรัก โดยผู้สนับสนุนอัล-ซาดร์ต่างเรียกร้องให้มีการยุบสภาและจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ขึ้น โดยไม่มีพรรคการเมืองที่สนับสนุนอิหร่านเข้าร่วม เพราะมองว่าพวกเขาเหล่านี้จะยิ่งทำให้อิรักเผชิญกับวิกฤตที่เลวร้ายมากขึ้นไปอีก
ภาพ: Ahmad Al-rubaye / AFP
อ้างอิง: