วานนี้ (22 พฤศจิกายน) ตั้งแต่เวลา 16.50 น. ที่ถนนอุทยาน เขตทวีวัฒนา มีการจัดชุมนุม ‘ราษฎรเฟสติวัล’ โดยกลุ่มภาคีนักศึกษาศาลายาและกลุ่มแดงก้าวหน้า 63 รวมถึงแกนนำกลุ่มราษฎรที่เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้ทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยนำโลงศพมาแห่และวางดอกไม้จันทน์เพื่อไว้อาลัยให้รัฐบาลและ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงเพื่อรำลึกถึงกลุ่มคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตในการชุมนุมปี 2553
ส่วนพื้นที่การตั้งเวทีปราศรัยจะอยู่บริเวณใกล้กับถนนอุทยานซอย 11 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเจรจากับกลุ่มการ์ดและกลุ่มนักศึกษาผู้จัดการชุมนุม เนื่องจากพื้นที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ตั้งเวทีเกินกว่าระยะที่แจ้งจัดการชุมนุมไว้ จากเดิมแจ้งไว้ที่ถนนอุทยานซอย 13 แต่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการตั้งเวทีบริเวณใกล้ถนนอุทยานซอย 11 โดยใช้เวลาในการเจรจาประมาณ 20 นาที
พล.ต.ต. เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ระบุว่าให้ผู้ชุมนุมตั้งเวทีใกล้บริเวณถนนอุทยานซอย 11 แต่ได้กำชับว่าจะต้องเว้นระยะห่างออกจากเขตพระราชฐานเพิ่มขึ้นจากที่กฎหมายกำหนด และไม่ให้เข้าไปใกล้โดยเด็ดขาด ทั้งนี้ได้เตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ประมาณ 3-4 กองร้อยเพื่อมาดูแลความสงบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยด้วย
ขณะที่กลุ่มการ์ดภาคีเพื่อประชาชนได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการทำหน้าที่เพื่อให้การชุมนุมของกลุ่มราษฎรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมามีทีมการ์ดหลายทีมเข้ามาร่วมทำงานดูแลความปลอดภัยในการชุมนุม
ดังนั้น เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันจึงได้ตั้งกลุ่มการ์ดภาคีเพื่อประชาชนที่เป็นการรวมทีมการ์ด 10 กลุ่ม นำโดยทีมการ์ดปลดแอก และมีทีมอาชีวะพิทักษ์ประชาชน ซึ่งเป็นการ์ดกลุ่มใหม่ที่อาชีวะตั้งขึ้นมาและเปิดตัวในวันนี้
ส่วนกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตยนั้น มีเพียงบางบุคคลที่ยุติบทบาทและแยกกันทำงาน เพราะเป็นกลุ่มศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน เป็นเรื่องความห่างระหว่างวัย จึงแบ่งส่วนการทำงานเพื่อความชัดเจน พร้อมย้ำแนวทางการทำงานคือปกป้องผู้ชุมนุมโดยสันติวิธี
ช่วงหนึ่งตัวแทนคนเสื้อแดงได้กล่าวเสริมว่า วันนี้คนเสื้อแดงอย่างตนต้องน้ำตาไหลในวันที่เยาวชนออกมาต่อสู้ มันถึงเวลาแล้วที่เสื้อแดงจะออกมาปกป้องนักศึกษาเพื่อดูความสำเร็จต่ออุดมการณ์ที่พวกเราเพรียกหา
ในพื้นที่ประเทศไทยมีเสื้อแดงทุกแห่ง ทุกภูมิภาค ถ้าพวกมินเนี่ยนออกมา เสื้อแดงก็พร้อมออกมาเหมือนกัน เวลานี้ในฐานะประชาชน ตนเห็นแล้วว่าชัยชนะตอนนี้อยู่ที่ปลายอุโมงค์
“ถึงเวลาแล้วที่เสื้อแดงต้องออกมาให้กำลังใจและสนับสนุนลูกหลานของพวกเรา เพื่ออนาคตของพวกเขา วันนี้พวกคุณคือวีรบุรุษของพวกเรา เพื่อระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง”
ขณะที่ตัวแทนคนเสื้อเหลืองที่ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มราษฎรได้ฝากถึงกลุ่มคนที่ออกมาปกป้องสถาบันฯ ว่า การใช้ความรุนแรงกับผู้คนที่เห็นต่างไม่ใช่สิ่งที่พึงกระทำ แต่ตอนนี้มันพิสูจน์ให้เห็นว่าสถาบันฯ กลับถูกพวกเผด็จการใช้เป็นเครื่องมือ
ต่อมา เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำราษฎร กล่าวว่าที่ถนนอักษะคือถนนแห่งประวัติศาสตร์ที่พี่น้องเสื้อแดงออกมาขับเคลื่อนต่อสู้และเสียสละชีพเพื่อประชาธิปไตย
แต่ทว่าตลอดระยะเวลา 88 ปีที่ผ่านมา มวลชนราษฎรยังคงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นการตั้งเวทีบนพื้นที่แห่งนี้คือการแสดงออกว่าประชาชนต้องการจะอยู่ร่วมกันตามระบอบประชาธิปไตย
วันนี้เขาใช้มาตรา 112 มายัดเยียดให้ตนกับเพื่อน ซึ่งเป็นกฎหมายล้าหลังที่รังแกตั้งแต่ยุคเสื้อแดงจนถึงปัจจุบัน ขอฝากไว้ว่าไม่ว่าจะใช้กฎหมายอะไรก็ตามแต่ พวกเราไม่เคยกลัว เพราะพวกเราทะลุเพดานแห่งความกลัวต่อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมมานานแล้ว
“ในเมื่อเขาต้องการใช้มาตรา 112 ให้พวกเราหยุดพูดเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่วันนี้เรามายืนยันว่าเราต้องการที่จะพูดเรื่องนี้ต่อไป” พริษฐ์ย้ำจุดยืน
ขณะที่เวลา 21.00 น. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยการเมืองนับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2557 วิดีโอคอลสายตรงพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรบริเวณถนนอักษะว่า ถนนแห่งนี้ตนเคยมีโอกาสได้ไปเข้าร่วมและพบเจอพี่น้องคนเสื้อแดงหลายคน
การจัดกิจกรรมมีการแสดงดนตรีสลับกับการปราศรัย จนถึงเวลาประมาณ 01.30 น. ตัวแทนผู้จัดกิจกรรมได้ประกาศยุติการชุมนุม พร้อมขอบคุณมวลชนทุกคนที่เดินทางมาร่วมในวันนี้ จากนั้นได้มีการเคลียร์พื้นที่โดยการเก็บเวทีปราศรัย เครื่องเสียง และเต็นท์เพื่อคืนพื้นที่ต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์