เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำตัวแทนศิลปิน 6 คน จากวง AKB48 ซึ่งเป็นวงพี่ของ BNK 48 จากประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย อาซาอิ นานามิ, ชิบะ เอรี่, อิวาตาเตะ ซาโฮะ, โมกิ ชิโนบุ, นากานิชิ จิโยริ และ ซาซากิ ยูคาริ เข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่เดินทางมาเตรียมการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่ประเทศไทยปลายปีนี้ ซึ่งนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ผู้บริหาร บริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพากลุ่มไอดอลเข้าพบนายกรัฐมนตรีครั้งนี้
โดยนายกรัฐมนตรี ได้จับมือทักทายเหล่าศิลปิน พร้อมกล่าวให้การต้อนรับว่า ไทยมีความสัมพันธ์กับประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ทั้งนี้ทราบว่าศิลปินวงนี้เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น และมีการพัฒนาศักยภาพตลอดเวลา เห็นว่าวันนี้มีแฟนคลับมาให้กำลังใจจำนวนมาก ส่วนตัวมองว่าที่นายกอบศักดิ์เรียกว่าเป็น ‘วงแม่’ นั้น ไม่ใช่ แต่ส่วนตัวมองว่าเป็น ‘วงพี่’ ที่เกิดมาก่อน และอายุยังน้อย ทั้งนี้ทราบว่าในเดือนธันวาคมจะมีการแสดงในไทย ก็เชื่อว่าคนไทยจะไปชมจำนวนมาก ถือเป็นการเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมทางด้านการท่องเที่ยวทั้งของญี่ปุ่นและไทย ที่ต้องเพิ่มการเชื่อมโยงระหว่างกันให้มากขึ้น เพราะนอกจากในไทย ยังเป็นการเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน ก็จะมีคนจากประเทศอื่นมาติดตามในไทยด้วย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น แต่จะให้นายกรัฐมนตรีไปติดตามศิลปินเหล่านี้ก็จะลำบาก ขอติดตามผ่านสื่อ นายกฯ ไม่สามารถไปเบียดสู้กับเด็กได้ ทั้งนี้ฝากกลุ่ม AKB48 ดูแล ศิลปิน BNK48 จากไทย ในฐานะพี่น้อง ซึ่งทางศิลปินก็รับปากจะดูแลอย่างดี
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้มีนักลงทุนญี่ปุ่น มาลงทุนในไทยจำนวนมาก เช่น ความร่วมมือในอีอีซี ทั้งนี้ขอชื่นชมบริษัทญี่ปุ่นที่มีความรับผิดชอบ พัฒนาประเทศและพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน ซึ่ง จำเป็นจะต้องสร้างความนิยมในภาคประชาชน นำ เอาสิ่งดีๆ ของแต่ละประเทศมาเชื่อมโยง โดยรัฐบาล ให้ความสำคัญกับเยาวชนและคนรุ่นใหม่ ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหลายครั้ง เห็นด้วยที่จะพัฒนาประเทศไปพร้อมกับคนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น ส่วนตัวชอบท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ลองฝากให้วง AKB48 นำวัฒนธรรมของประเทศที่จะไปแสดงมาเชื่อมโยงกับการโชว์ของวง เช่น ประเทศไทยมีหมู่บ้านญี่ปุ่นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้านศิลปิน AKB48 ได้ถามนายกรัฐมนตรีว่า ชื่นชอบอาหารอะไร นายกรัฐมนตรีบอกว่า ชอบทุกอย่างที่เป็นอาหารไทย เช่น ผัดกะเพรา ต้มจืด ส้มตำ ไก่ย่าง และต้มยำกุ้ง พร้อมบอกว่า ส่วนตัวก็ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น ไม่ได้โกหก เช่น ข้าวหน้าเนื้อ หน้าหมู ราเมง และปลาดิบ เพราะตนศึกษาประเทศญี่ปุ่นจากรายการโทรทัศน์ที่มีคนจูงสุนัขพาไปเที่ยว
จากนั้นศิลปินจากแดนอาทิตย์อุทัย ได้เต้นเพลง ‘Koisuri Fortune Cookie’ หรือต้นฉบับเพลง ‘คุกกี้เสี่ยงทาย’ ให้นายกรัฐมนตรีและคณะชม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้หยิบแท่งไฟมาโยกตามจังหวะ พร้อมกล่าวว่า เพลงนี้มีความหมายว่ายิ้มสู้ไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ให้สามารถแก้ไขปัญหาไปได้ จากนั้นได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับซักถาม พร้อมมอบของที่ระลึกเป็นถุงผ้าสีดำลายตึกไทยคู่ฟ้า ภายในบรรจุข้าวสาร พร้อมสมุดไดอะรี ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ร่วมจับมือ 8 วินาที กับเหล่าศิลปิน และทางศิลปินได้ขอเซลฟีร่วมกับนายกรัฐมนตรีด้วย ก่อนที่นายกฯ จะพาเยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกภักดีบดินทร์
ภายหลังเข้าพบนายกฯ โมกิ ชิโนบุ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาประเทศไทย ตนได้เปิดรูปนายกฯ ก่อนที่จะมาพบด้วย พอเจอตัวจริงก็ตื่นเต้นมาก และตนเองก็เคยเดินทางมาเมืองไทยแล้ว ด้าน นากานิชิ จิโยริ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้เจอแฟนคลับที่ประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสวิจารณ์ น.ส.เฌอปราง อารีย์กุล ศิลปิน BNK48 ที่มาร่วมงานกับนายกฯ ว่ารับใช้เผด็จการ และในส่วนของศิลปิน AKB48 ที่มาวันนี้จะถูกเชื่อมโยงด้วยหรือไม่ นายกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ ในฐานะพิธีกรเพจเฟซบุ๊กสายตรงไทยนิยม กล่าวว่า ไม่ได้คิด ไม่มีประเด็นอะไร ไม่ได้กังวลอะไร และที่ AKB48 มาวันนี้ น้องก็อยากมาเจอนายกฯ เอง
ทั้งนี้ ในตอนท้ายศิลปิน AKB48 ได้เปิดโอกาสให้เหล่าโอตะเมืองไทยที่มาร่วมได้จับมือด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ก่อนการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอโทษผู้เข้าร่วมประชุมที่มาช้า เนื่องจากมีศิลปินกลุ่ม AKB48 จากประเทศญี่ปุ่นมา และใช้เวลาเข้าพบนาน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่หน้าตาสดใส ส่วนแฟนคลับก็เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่เช่นกัน ถือเป็นเรื่องที่ดีในการสานความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างไทยและญี่ปุ่น สำหรับการประชุมในวันนี้ ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ส่งเสริมให้มีการลงทุนในประเทศมากขึ้น แต่ต้องทำให้ทุกอย่างไร้รอยต่อ โดยการพัฒนาศักยภาพพื้นที่ของไทยให้พร้อม และสร้างความเข้าใจและการรับรู้ที่ถูกต้องให้กับประชาชนด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติงานในอนาคต
ภาพ:
- ฐานิส สุดโด
- ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม
- สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี