เสร็จสิ้นไปแล้วกับงาน ‘AIS5GVERSE’ ซึ่งเป็นงานที่ AIS จัดขึ้นมาเพื่อขอบคุณลูกค้าที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน จน AIS กำลังจะก้าวขึ้นสู่ปีที่ 32 โดยงานนี้เป็นงานที่ทำให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่บุกโลก Metaverse เชื่อมโลกจริงและโลกเสมือน ผ่านการใช้ AIS 5G เทคโนโลยีที่ว่ากันว่าจะเข้ามาเปลี่ยนโลก พร้อมจัดเต็มกองทัพศิลปินจาก AIS Family, TEAMAIS5G และ Metaverse Human
งานนี้เริ่มต้นด้วยแม่ทัพใหญ่ของ AIS อย่าง ‘สมชัย เลิศสุทธิวงค์’ ที่ได้ออกมาพูดถึงตลอดช่วงระยะเวลา 31 ปีที่ผ่านมา และกำลังก้าวสู่ปีที่ 32 ของ AIS ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมและประเทศ โดยเฉพาะช่วงการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด ที่ทำให้ดิจิทัลมีผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตและการทำงาน
“เราขอขอบคุณลูกค้าทั้ง 45 ล้านรายที่ไว้วางใจใน AIS เราจะทุ่มเทเพื่อท่านตลอดไป โดยเราขอส่งผ่านคำขอบคุณไปยังทุกท่าน และเราจะพัฒนาด้วยนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง”
หลังจากนั้นก็เป็นเวลาที่แฟนๆ หลายคนรอคอย เพราะศิลปินในใจได้ออกมาวาดลวดลาย ไม่ว่าจะเป็น TEAM AIS 5G ทั้ง วิน เมธวิน, แอลลี่, บิวกิ้น, เจเจ, นนน, โอม (ที่โชว์โซโล่กีตาร์แบบเท่ๆ), พีพี, ต้าเหนิง, ทรินิตี้ และ 4EVE
ตลอดจนการนำเสนอ Performance ของ AIS Family จาก แบมแบม GOT7 และ Metaverse Human คนแรกอย่าง น้องไอ ไอรีน ที่ได้ขึ้นเวทีร่วมกันเป็นครั้งแรก เพื่อโชว์ประสบการณ์ดิจิทัลจากโลกจริงและโลกเสมือนที่เทียบชั้นระดับโลก
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบริบทที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นหน้าที่ในการปรับตัวเพื่อให้สามารถส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ทุก Generation อยู่เสมอ ดังนั้น AIS จึงประกาศก้าวสู่การเป็น Cognitive Telco หรือองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะในอีก 3 ปีข้างหน้า ใน 3 องค์ประกอบ คือ
- สร้างการมีส่วนร่วม (Interactive) กับลูกค้าตลอดเวลา
- สามารถสร้างรูปแบบบริการเฉพาะบุคคลแบบ Personalization ของลูกค้าได้อย่างตรงใจ
- รวดเร็วและตอบสนองในระดับ Real Time เพื่อให้เท่าทันทุกความต้องการของลูกค้า
“เราจะมีการวางโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงระบบ IT ให้เป็นเครือข่ายอัจฉริยะผ่านการใช้ AI, Data Analytic ในระดับสูง ดังเช่นในวันนี้ที่เราเป็นผู้ให้บริการรายแรกและรายเดียวที่เริ่มเข้าสู่โลก Metaverse ก่อนใคร”
สมชัยย้ำว่า แนวคิดของ AIS นั้นยังคงมุ่งเน้นไปที่คุณภาพที่ดีที่สุดและสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ Stakeholder ทุกกลุ่ม รวมถึงการนำนวัตกรรมที่จะสร้างโอกาสให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ และประเทศไทย อย่าง Metaverse มาริเริ่มก่อนอย่างเป็นรูปธรรมเป็นรายแรก ส่วนยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจจะมุ่งเน้นใน 3 กลุ่ม คือ
- Mobile 5G ที่เป็นธุรกิจหลัก พร้อมเสริมศักยภาพด้วยการเป็นโครงข่ายอัจฉริยะ AI, Data Analytic
- AIS Fibre และ Enterprise Business ที่ถือเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนใหม่ที่ใช้นวัตกรรมพร้อมจุดแข็งของพาร์ตเนอร์ สร้างความแข็งแกร่งใน Ecosystem ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- New Digital Service ที่จะเริ่มเห็นความคืบหน้าในครึ่งปีแรกนี้ อาทิ AISCB ที่ให้บริการ Digital Lending
“เราพร้อมจะอยู่เคียงข้าง นำขีดความสามารถของพวกเราสนับสนุนการใช้ชีวิต การทำงาน และยกระดับเศรษฐกิจจากฐานรากสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อท่านและเพื่อประเทศไทยตลอดไป” สมชัยกล่าวทิ้งท้าย
