AIS The 5-Min Video Challenge คือโครงการที่ชวนเหล่าครีเอเตอร์มาสร้างสรรค์คลิปวิดีโอความยาวไม่เกิน 5 นาที ภายใต้คอนเซปต์ ‘Connecting Live เชื่อมโลกให้ใกล้ เชื่อมใจให้กว้าง’ ซึ่งกำลังเปิดรับสมัครเป็นปีที่ 2 เพื่อค้นหา 2 ทีมตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันกับอีก 7 ประเทศ พร้อมโอกาสโชว์ผลงานในเวทีระดับโลก
THE STANDARD มีโอกาสได้พูดคุยกับ นัท-ปวริศา ตั้งตุลานนท์ ครีเอทีฟจากทีม Hello Gorgeous หนึ่งในตัวแทนประเทศไทยที่ได้ไปประกวดระดับ regional ณ ประเทศสิงคโปร์ ในปีแรก ถึงประสบการณ์สุดคุ้มที่ได้รับจากโครงการนี้
จุดเริ่มต้นในการส่งคลิปประกวด AIS The 5-Min Video Challenge
จริงๆ เราไม่เคยคิดจะประกวดอะไรแบบนี้เลย เพราะส่วนตัวไม่ได้มีความเชื่อว่าตัวเองจะทำได้ คำว่า ‘ทำได้’ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง สามารถทำมันจนชนะได้รางวัลนะ เอาแค่ทำจนสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันก็นึกไม่ถึงแล้ว แต่โชคดีที่พี่ปุ๊ก เพื่อนร่วมทีม (ช่างภาพและคนตัดต่อ) มาชวน เอาโครงการ AIS The 5-Min Video Challenge ที่เพิ่งจัดเป็นปีแรกมาให้ดู บอกว่าอยากเล่าเรื่องกลุ่มเพื่อน เรื่องที่พวกเราไปเที่ยวเวียดนามเหนือด้วยกัน แล้วก็โยนไอเดียให้เราไปคิดสคริปต์ต่อ เราก็ตั้งใจเขียนเรียบเรียงมันจนเสร็จ พอวันรุ่งขึ้นก็เอาไปให้เขาดูเลย
เรื่องของกลุ่มเพื่อนที่ออกเดินทางด้วยกัน กลายมาเป็นวิดีโอคอนเซปต์ ‘Connecting Live เชื่อมโลกให้ใกล้ เชื่อมใจให้กว้าง’ ได้ยังไง
เราพยายามตีโจทย์ว่ามันควรถ่ายทอดออกมาแบบไหน อยากสื่อสารอะไรกับคนดู คนดูจะได้อะไรจากการดูคลิปนี้ มันต้องไม่ใช่แค่รู้สึกสนุก ตลก หรือมีสาระจนซีเรียสเกินไป เลยคิดว่าอยากทำคลิปสักตัวที่มีความฟีลกู๊ด ดูแล้วยิ้มๆ
โจทย์คือการเดินทางครั้งล่าสุดของเรากับกลุ่มเพื่อนที่ชื่อว่า Hello Gorgeous พวกเรา 16 คนไปเที่ยวเวียดนามเหนือกัน และมันไม่ใช่การเก็บกระเป๋าไปเที่ยวธรรมดา แต่ทุกวันจะมีการกำหนดธีมแต่งตัวให้ชุดคุมโทนด้วย ตอนนั้นเราเพิ่งไปกับเขาเป็นปีแรก ในขณะที่คนอื่นไปเป็นปีที่ 3 แล้ว เหมือนเป็นน้องใหม่ในกลุ่ม เลยตั้งใจเล่าเรื่องจากมุมมองของคนนอก ผ่านการ Connect ขั้นแรก โดยเริ่มมารู้จักกัน อยู่ดีๆ ได้ไปเที่ยวกับเขาเฉยเลย ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ไม่ได้เตรียมตัวมาดี พอไปถึงเวียดนามก็เริ่มสนิท เปิดใจมากขึ้น ไป Connect กับคนที่เวียดนามต่อ เจอไกด์พาเที่ยว เจอผู้คนที่นั่น และระหว่างทางเราต้องถ่ายรูปกรุ๊ปช็อตทุกที่กับชุดทุกธีม เอามาลงในสื่อโซเชียล เฟซบุ๊ก อินสตาแกรมของพวกเราเอง พอคนอื่นมาเห็นเข้า เขาคงชอบใจ ไปแชร์ต่อ แท็กเพื่อนชวนกันมาดู รู้สึกเหมือนเราได้ Connect กับคนอื่นๆ เป็นการเชื่อมคนอื่นเข้าด้วยกันผ่านสิ่งที่เราสื่อสารออกไป
เราดีใจเวลาเห็นเพื่อนเก่ามารวมตัวกัน แต่งตัวตามธีมเหมือนพวกเรา และถ่ายรูปส่งกลับมาให้ดู อย่างที่บอกตอนท้ายคลิปว่า มันน่ารักดี เวลาที่เขาเห็นพวกเราแล้วคิดถึงเพื่อนตัวเอง
จากกระแสในโซเชียลจนมาถึงเวทีประกวด ผลตอบรับเป็นอย่างไร
ตอนประกาศผลรอบแรก ได้เข้ารอบ 25 ทีมสุดท้าย เราก็ดีใจมากแล้ว อยากกราบงามๆ ให้กรรมการคนละสามที แต่พอได้รางวัลเป็นตัวแทน 2 ทีมไปแข่งต่อในรอบ regional มันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมาก อย่างที่บอกไปตอนแรก เราไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำอะไรแบบนี้ได้
ประสบการณ์ในการประกวดรอบ Regional
มันคือประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเลย ไปกับอีกทีมชื่อว่า Daughter of god เจ้าของผลงานเรื่อง Forest บรรยากาศในงานตอนนั้นทุกอย่างมันน่าตื่นเต้นไปหมด มีสื่อมารอสัมภาษณ์ นั่งดินเนอร์ในโรงแรมหรูหรา มีการเปิดคลิปของทุกทีมวนให้ดูด้วย แล้ววิดีโอของเรามันเป็นเสียงเรา หน้าเรา และเราก็ไปนั่งอยู่ตรงนั้น เขินๆ นิดนึง มีทั้งผู้เข้าแข่งขันทีมอื่น และทีมงานที่ประเทศสิงคโปร์จำได้ เข้ามาทักทาย ชื่นชม ซึ่งพอได้เห็นงานตัวเองอยู่บนจอใหญ่ๆ เปิดต่อหน้าคนเยอะๆ มันขนลุกดีนะ
รู้สึกขอบคุณพี่ปุ๊ก เพื่อนร่วมทีมในใจตลอดเวลา และขอบคุณทีมงานเอไอเอสด้วย เขาดูแลเราดีมาก ช่วยลุ้น ช่วยเชียร์กันตลอดเลย
ช่วงประกาศรางวัล ทีมงานจัดให้ทุกทีมไปยืนอยู่บนเวที ตอนนั้นไม่คิดอะไรแล้ว แค่ได้มาถึงจุดนี้ก็พอใจ สรุปประกาศรางวัลแรก People’s Choice อันดับที่ 2 จากการโหวตของคนดู กรรมการประกาศชื่อ “Hello Gorgeous from Thailand!” ตามมาด้วยเสียงเฮจากคนข้างล่าง ดีใจมาก ออกไปรับรางวัลแบบสั่นๆ เป็นความทรงจำที่จะไม่มีวันลืมเลยจริงๆ
สิ่งที่ได้จากการประกวดครั้งนั้น
สำหรับเรามันเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน ได้ไปเวิร์กช็อปกับคนเก่งๆ อย่างพี่โหน่ง-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์, พี่โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล, พี่ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร, พี่หลุยส์-กฤษณ์ สงวนปิยะพันธ์ และ พี่เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ พวกเขามาแชร์ประสบการณ์จากการทำงานจริง ได้ความรู้มาปรับปรุงงานให้ดียิ่งขึ้น และมันไม่ใช่แค่เอาไปพัฒนางานที่จะทำประกวด แต่มันคือทุกๆ งานที่จะได้ทำต่อจากนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เรียนรู้จากคนที่เป็นตัวท็อปของวงการนี้เลย ได้ทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ เกิดการเรียนรู้ และทำให้อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นด้วย
เพราะอะไรน้องๆ นิสิตนักศึกษาจึงควรร่วมประกวดในโครงการ AIS The 5-Min Video Challenge ครั้งที่ 2
วัยเรียนคือวัยที่คนเราจะมีพลังในการทำสิ่งใหม่ๆ เยอะที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่ดีในการกอบโกยประสบการณ์ให้ตัวเอง ได้ทดลองดูว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง ชอบอะไร ถนัดอะไร เพื่อต่อยอดไปสู่โลกการทำงานจริงๆ ในอนาคต การเข้าร่วมประกวดโครงการนี้เป็นอีกทางหนึ่งในการทดลองทำสิ่งเหล่านั้น เพื่อค้นหาตัวเอง อยากให้น้องๆ ลองตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานและส่งประกวดดู ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยสิ่งที่ได้ทำมันต้องให้บทเรียนที่ดีกับทุกคนแน่นอน
AIS The 5-Min Video Challenge ครั้งที่ 2 เปิดรับสมัครถึงวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก AISthe5minvideochallenge หรือ www.ais.co.th/the5minvideochallenge
