ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีจุดแข็งด้าน CRM และการดูแลลูกค้าผู้ใช้บริการให้มี Brand Loyalty ที่สูงอย่างต่อเนื่อง จนมีฐานผู้ใช้บริการครองแชร์ในตลาดเป็นอันดับหนึ่งที่กว่า 42.76 ล้านรายทั้งที เมื่อไม่สามารถเดินทางไปทานอาหารที่หน้าร้านพร้อมรับแลกสิทธิพิเศษได้เนื่องจากมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 AIS จึงปรับตัว และเพิ่มโมเดลการแลกพอยต์รับสิทธิพิเศษ ส่วนลดใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน
ล่าสุด AIS ได้ประกาศความร่วมมือกับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีทั้ง 5 รายในประเทศไทย Grab, Gojek, Foodpanda, Robinhood และ LINE MAN Wongnai ในการจัดแคมเปญ ‘ผนึกกำลัง ฟินอยู่บ้าน’ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ลูกค้า AIS ที่เดิมทีนิยมนำ AIS Point ไปแลกรับส่วนลดตามร้านอาหารต่างๆ ในช่วงสถานการณ์ปกติ สามารถนำคะแนนที่มีมาใช้แลกส่วนลดค่าบริการสั่งอาหารผ่านทั้ง 5 แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้แทนในช่วงนี้ เพื่อให้ทางเลือกการสั่งอาหารที่หลากหลายกว่า 300,000 ร้าน ผ่านแอปฯ myAIS
ผู้ใช้บริการ AIS จะสามารถแลก AIS Point เพื่อรับส่วนลดค่าสั่งอาหารได้สูงสุดที่ 60 บาท โดยสำหรับ
- ลูกค้า AIS Serenade – ใช้ 59 คะแนน แลกส่วนลดได้ 40 บาท และใช้ 99 คะแนน แลกส่วนลดได้ 60 บาท
- ลูกค้า AIS – ใช้ 59 คะแนน แลกส่วนลดได้ 30 บาท และใช้ 99 คะแนน แลกรับส่วนลด 50 บาท
ส่วนเงื่อนไขของการใช้ส่วนลดคือจะต้องมียอดสั่งอาหารไม่ต่ำกว่า 150 บาทต่อหนึ่งออร์เดอร์ และสามารถใช้แลกได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีจำกัดจำนวนต่อครั้งหรือต่อวัน ซึ่งความตั้งใจหลักๆ ของ AIS ที่ปั้นแคมเปญนี้ขึ้นมานั้น บุษยา สถิรพิพัฒน์กุล ผู้บริหารหน่วยงานธุรกิจดูแลลูกค้าและสิทธิประโยชน์ AIS บอกว่าประกอบไปด้วย 3 แกนสำคัญ นั่นคือ
- ช่วยให้คนไทยได้ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอย่างมีความสุข
- ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ไรเดอร์ ซึ่งเป็นพระเอกในช่วงนี้ ทำงาน ส่งอาหารให้ทุกคน
- ดูแลลูกค้าของ AIS ให้ปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง มีความสุขในขณะที่กักตัวอยู่ที่บ้าน
ขณะที่อินไซต์การใช้งานแอปฯ myAIS ที่น่าสนใจพบว่า ปัจจุบันแพลตฟอร์ม CRM ของ AIS นี้มีผู้ใช้งาน 7.3 ล้านรายต่อเดือน (MAU) เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับปี (ณ ช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว) โดยเป็น Unique Users ทั้งหมด ซึ่งในช่วงที่ AIS รันแคมเปญต่างๆ เป็นจำนวนมาก ยอดผู้ใช้งานเคยเพิ่มถึงระดับ 8.5 ล้านเลขหมายมาแล้ว
ส่วน 3 อันดับแรกที่ลูกค้า AIS ใช้พอยต์แลกสิทธิพิเศษมากที่สุดคือ การแลกรับ On Top สำหรับ Data หรือ Voice, ส่วนลดค่ากาแฟ และสุดท้ายคือส่วนลดสำหรับบริการสั่งอาหาร ซึ่งคาดว่าภายในเดือนนี้น่าจะแซงหน้ากาแฟขึ้นไปได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยติด 3 อับดับแรกมาก่อนเลย
ด้าน ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการ ‘Robinhood’ ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า แพลตฟอร์มสั่งอาหารของตนมีจุดเด่นอยู่ที่การไม่คิดค่าธรรมเนียม GP กับร้านอาหาร เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจอาหารในไทย รวมถึงการปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ
โดยความช่วยเหลือในส่วนนี้เป็นการนำเงินจากงบประมาณสำหรับการทำ CSR บางส่วนมาสนับสนุน ซึ่งปีที่แล้วงบประมาณ CSR อยู่ที่ราว 100 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้งบ CSR ทั้งหมดจะอยู่ที่ราว 200 ล้านบาท หรือคิดป็นสัดส่วนราว 0.5% สำหรับกำไรทั้งหมดของธนาคารไทยพาณิชย์ในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ในอนาคต ยังมองถึงความเป็นไปได้ในการขยายความช่วยเหลือไปยังผู้ประกอบการกลุ่มโรงแรมและที่พัก รวมถึงยังมีโครงการจะให้ความช่วยเหลือไรเดอร์ที่ไม่มีพาหนะ ในการเช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาขับส่งอาหารในสนนราคาเริ่มต้นวันละประมาณ 100 กว่าบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกิดการสร้างงานได้ราว 1,000 คน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
