ถึงแม้สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2562 (เดือนมกราคมถึงธันวาคม) จะมีจำนวน 39.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลอดจนสายการบินไทยแอร์เอเชียมีจำนวนผู้โดยสารรวมใน 22.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3%
ทว่าตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ฉุดให้บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV บริษัทแม่ที่ถือหุ้น 55% ในบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ที่ประกอบธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชียดีขึ้นเลย
AAV ระบุในเอกสารที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2562 เผชิญกับการเติบโตของเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เนื่องจากความยืดเยื้อและขยายวงกว้างของสงครามการค้า และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับนโยบายการค้าและเศรษฐกิจ ส่งผลให้ภาคการส่งออก การลงทุน รวมถึงความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ความผันผวนดังกล่าวส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งกระทบต่อการดำเนินงาน AAV โดยในปี 2562 แม้จะมีรายได้รวม 41,553.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,352.9 ล้านบาท หรือ 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่ที่สุดแล้วปรากฏตัวเลขขาดทุน 474 ล้านบาท พลิกจากที่เคยได้กำไรในปี 2561 ถึง 70 ล้านบาท
สำหรับในปี 2563 AAV มองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงมีความเสี่ยงหลายด้านทั้ง การเจรจาการค้าระยะที่ 2 ระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจะเข้ามากระทบกับการท่องเที่ยว
โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์รายได้รวมจากการท่องเที่ยวในปี 2563 หดตัว 3% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 2.91 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.78 ล้านล้านบาท หดตัว 8% และคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 10% อยู่ที่ 36 ล้านคน
ดังนั้น แอร์เอเชียปรับลดเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารมาอยู่ที่ 20.5 ล้านคน ตลอดจนเตรียมพร้อมรับมือในเรื่องอื่นๆ ทั้ง ปรับลดความถี่ หรือยกเลิกเที่ยวบินต่างๆ และการจัดเส้นทางบินใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทาง รวมถึงการต่อยอดการบริหารต้นทุน
และยังได้นำเครื่องบินรุ่นใหม่ A321 นีโอ ซึ่งมีจำนวนที่นั่งที่เพิ่มมากขึ้น และมีประสิทธิภาพในการประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงมากขึ้น มาทดแทนเครื่องบินเดิมที่ปลดประจำการอีกด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์