วันนี้ (5 กุมภาพันธ์) หลังจากภารกิจการนำคนไทยกลับจากอู่ฮั่นหลังการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินพิเศษ FD 571 ได้ลงจอดที่รันเวย์ของกองบินทหารเรือ ซึ่งอยู่ติดกับสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาในเวลา 20.40 น. ของเมื่อวานนี้ พาคนไทยจากอู่ฮั่นจำนวน 138 ชีวิตเดินทางกลับถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย
ล่าสุดกัปตันของสายการบินแอร์เอเชีย หนึ่งในทีมงานจำนวน 15 คนที่ปฏิบัติหน้าที่พาคนไทยกลับจากอู่ฮั่นออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Manoon Jarornloy’ เล่าถึงเบื้องหลังภารกิจดังกล่าว โดยสรุปคร่าวๆ ได้ว่า แผนพาคนไทยออกจากอู่ฮั่น เดิมทีมีขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเวลาร่วมสัปดาห์ ซึ่งแผนงานทุกอย่างต้องผ่านการซักซ้อมเป็นอย่างดี ตั้งแต่การสวมชุดป้องกัน การคัดกรองผู้โดยสาร และอื่นๆ ที่จำเป็นต้องทำด้วยความเคร่งครัด
“เราแลนดิ้งที่อู่ฮั่นตอน 11.15 น. (เวลาอู่ฮั่น) เรารีบกินข้าวและทำธุระส่วนตัว ก่อนที่จะบอร์ดผู้โดยสาร เพราะหมอบอกว่าหลังจากนั้นเราจะไม่สะดวกอีก เราใช้เวลาคัดกรองและบอร์ดเกือบ 6 ชั่วโมง ซึ่งยาวนานมาก ผมกับอั๋นและเอ็นจิเนียร์เก็บตัวในห้องนักบิน น้องๆ ลูกเรือช่วยหมอในการจัดที่นั่งผู้โดยสารและออกที่นั่งให้ ทำไมต้องทำขนาดนั้น…
- เราต้องมั่นใจว่าคนที่อาจมีอาการหรือติดเชื้อต้องถูกแยกไปนั่งต่างหาก และใช้ห้องน้ำที่แยกไว้ให้
- คนที่แข็งแรง แต่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ต้องนั่งอีกโซน
- กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มเสี่ยงน้อย จะจัดให้นั่งข้างหน้า
“ผมงีบรอในห้องนักบินครับ แต่ตื่นขึ้นมาทีไรผมก็ยังเห็นน้องๆ ทั้งหมอและลูกเรือทำงานด้วยความร่าเริงตลอดเวลา มีการเอ็นเตอร์เทนผู้โดยสารตลอดเวลา
“คุณคิดดูว่าในมุมของผู้โดยสารคนแรก ต้องรอคนสุดท้ายเกือบ 6 ชั่วโมง มันน่าเบื่อขนาดไหน การบอร์ดอันยาวนานสิ้นสุดลง เราเริ่มขออนุญาตถอยและทำการวิ่งขึ้น สนามบินที่เคยคับคั่งไปด้วยเครื่องบินจากนานาประเทศ ตอนนี้เป็นของเราคนเดียว
“ขอพูดถึงทีมแพทย์ชุดนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงน้องๆ ลูกเรือของเรา ต้องขอบอกว่าพวกเขาสุดยอด ทั้งความรู้ การเตรียมการ การทำตามแผนและนอกแผน
“หลังจากการตรวจอันยาวนาน ตอนแรกเราจะให้ผู้โดยสารแค่น้ำ 2 ขวด แซนด์วิช เจลล้างมือ ซึ่งจะวางไว้ที่ที่นั่งก่อนจะบอร์ดผู้โดยสารเพื่อลดขั้นตอนการบริการ ในแผนจะไม่มีการบริการอาหารร้อน แต่ด้วยเวลาที่ทอดยาวออกไป ผู้โดยสารมารอแต่เช้า และไม่มีอะไรขายที่สนามบิน อาหารที่เราโหลดมาเพื่อใช้ในกรณีไดเวิร์ดถูกนำมาใช้จนเกลี้ยง
“โชคดีจริงๆ ที่เราคิดถึงกรณีนี้ไว้ ตามข้อเสนอของปุ้ม หัวหน้าลูกเรือ เพราะถ้าเราไปลงสนามบินกลางทางในกรณีฉุกเฉิน ไม่มีใครให้เราลงจากเครื่องแน่ เราควรมีน้ำและอาหารสำรองก่อนเครื่องกู้ภัยจะมารับ
“จากแผนไม่เสิร์ฟระหว่างเที่ยวบินก็ต้องมาทำ บริการเต็มรูปแบบ น้องๆ ลูกเรือต้องอุ่นอาหารแบบด่วน ทายสิครับ ใครจะเป็นคนเสิร์ฟ… ทีมหมอและพยาบาลสิครับ แม้แต่ ผอ.สถาบันบำราศนราดูร ก็ได้ทดลองอาชีพสจวร์ตครั้งแรก คุณหมอ พยาบาล ที่ข้างล่างคนเรียกอาจารย์ วันนี้ต่างทำหน้าที่บริการอาหารอย่างแข็งขัน
“เรามีหมอจิตเวชและเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศไปด้วย ทุกคนช่วยกันเอ็นเตอร์เทนผู้โดยสารตลอดเวลาเพื่อลดความเครียดที่รอกลับบ้านเป็นเวลานาน ทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างสุดยอดจริงๆ
“เราลงที่อู่ตะเภา และตามคาด มีคนมากมายมารอทำข่าว และคุณหมอก็ได้ทำหน้าที่สุดท้ายของตนเองบนเครื่องบินคือทำความสะอาดเครื่องบิน เก็บขยะลงถุงปลอดเชื้อ พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ ก่อนทีมฆ่าเชื้อของฝ่ายช่างแอร์เอเชียจะมาทำซ้ำอีกรอบ
“ผมไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้ผู้โดยสารได้นอนเมื่อไร ทีมหมอและกระทรวงการต่างประเทศได้กินข้าวไหม เพราะผมแอบนำทีมลูกเรือหลบมาก่อน
“ผมยอมรับในหัวใจของคุณหมอและกระทรวงการต่างประเทศชุดนี้จริงๆ ที่ทำงานหนักตลอดวันอย่างมีพลังและร่าเริงตลอดเวลา ลูกเรือผมก็เช่นกัน ถ้าจะมีใครถูกเรียกว่าฮีโร่ นั่นคือพวกเขาครับ
“ขอซูฮก…ทีมคุณหมอและเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศทั้งสองคนด้วยใจจริง
“จบการทำงาน…18 ชั่วโมงอันยาวนานครับ”
ภาพ: Manoon Jarornloy / Facebook
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: