วันนี้ (26 กรกฎาคม) พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล เสนาธิการทหารอากาศ (เสธ.ทอ.) ระบุถึงการเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ตัดงบประมาณในการจัดหาเครื่องบินรบ F-35A จำนวน 2 ลำ มูลค่า 7,400 ล้านบาท ออกจากรายการงบประมาณ ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นงบผูกพันระหว่างปี 2566-2569 โดยในปี 2566 อยู่ที่กว่า 700 ล้านบาทว่า ได้มีคำแนะนำจากคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ซึ่งวานนี้ (25 กรกฎาคม) ตนได้ยื่นเรื่องขออุทธรณ์ต่อประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ เพื่อเสนอไปยังคณะกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการของสภาฯ ต่อไป พร้อมยืนยันเหตุผลความจำเป็นในการจัดหา เพื่อทดแทนยุทโธปกรณ์เดิม
ทั้งนี้ทางคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ต้องการให้กองทัพอากาศ ได้ PNA หรือ ใบเสนอราคาและความเป็นไปได้มาก่อน ซึ่งคาดว่าจะได้ในช่วงเดือนมกราคมปี 2566 จากประเทศสหรัฐอเมริกา และไม่ใช่ต้องรอถึง 20 เดือนตามที่ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะทางคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ กล่าว เนื่องจากได้มีการร้องขอใบเสนอราคาไปตั้งแต่เดือนธันวาคมแล้ว
ส่วนที่ทางคณะทางคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ อยากให้กองทัพอากาศของบกลางมาใช้นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ลำบาก จึงขอทำตามขั้นตอนไปก่อน และคงไม่ใช่ระเบียบแนวทางของการของบประมาณกองทัพ ซึ่งก็ยังไม่มีความแน่นอนในส่วนของงบกลาง เราก็คงไม่ไปแตะตรงนั้น โดยในเบื้องต้นต้องทำหน้าที่ดีเฟนด์งบประมาณปี 2566 ของเราก่อน ส่วนที่ยุทธพงศ์ขอให้รอให้ได้ PNA ก่อนแล้ว ให้ไปของบกลางนั้น มองว่าหากเราได้รับการสนับสนุนให้ผ่านในตอนนี้ก็จะเป็นแรงบวกอย่างหนึ่ง ทำให้สหรัฐฯ พิจารณาอนุมัติให้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ พล.อ.อ. พันธ์ภักดียังระบุถึงบรรยากาศในการชี้แจงเมื่อวานนี้ว่า เป็นไปด้วยดีมาก ตนเข้าใจเหตุผลการทำหน้าที่ของคณะอนุกรรมาธิการแต่ละท่าน แต่ต่างคนก็ต่างต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ส่วนที่คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น พล.อ.อ. พันธ์ภักดีรับว่า เราเองก็เป็นห่วงเช่นกัน แต่ก็ใช้งบประมาณที่ทางกองทัพอากาศได้รับ โดยจะเป็นการทยอยจ่ายให้น้อยที่สุด เพราะหากไม่มีการเริ่มเลย ต่อให้จะมีเงินในอนาคตก็อาจไม่สามารถซื้อได้