×

ปิดช่องว่างความไว้วางใจใน AI ของผู้นำธุรกิจไทย

25.03.2025
  • LOADING...

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) ถือเป็นพลังสำคัญขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย โดยข้อมูลล่าสุดจาก ‘รายงานผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 28 ฉบับประเทศไทย: ปฏิรูปรูปแบบธุรกิจ เพื่อพิชิตโลกอนาคต’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ‘รายงานผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 28 ของ PwC’ พบว่า ซีอีโอในประเทศไทย 30% ที่ได้มีส่วนร่วมในแบบสอบถามกล่าวว่า GenAI ช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทของพวกเขา ในขณะที่ 37% ระบุว่า ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการประยุกต์ใช้ AI 

 

แต่แม้ว่าข้อมูลเชิงบวกเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของการเติบโตของ AI ในระยะข้างหน้า แต่ความไว้วางใจต่อเทคโนโลยีนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ซีอีโอจำนวนไม่น้อยตั้งคำถาม ซึ่งรายงานผลสำรวจฉบับประเทศไทย ที่ได้รวบรวมความคิดเห็นของผู้นำธุรกิจระดับ c-suite จำนวน 41 คนบอกเราว่า ยังคงมีช่องว่างความไว้วางใจต่อ AI ในหมู่ซีอีโอไทย โดยมี 27% เท่านั้นที่แสดงความไว้วางใจมาก ถึงมากที่สุดในการผนวก AI ในกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญ ขณะที่ 20% แสดงความไว้วางใจน้อย และอีก 7% ไม่ไว้วางใจเลย โดยท่าทีที่ระมัดระวังนี้สะท้อนให้เห็นถึง การยอมรับถึงการเข้ามาและประโยชน์ของ AI ในภาพรวม แต่ผู้บริหารระดับสูงยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้งาน AI อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ  

 

gap may CEOs

 

ทั้งนี้ บทความ An AI trust gap may be holding CEOs back ของ PwC ได้นำเสนอสามแนวทางสำหรับซีอีโอในการเพิ่มความไว้วางใจเพื่อปลดล็อกศักยภาพสูงสุดจากการใช้งาน AI ไว้ ดังต่อไปนี้ 

 

  1. เป็นผู้นำแบบรวมศูนย์ในการดูแลการใช้งาน AI ที่มีความรับผิดชอบ การสร้างความไว้วางใจใน AI เริ่มต้นด้วยการยอมรับความเสี่ยงและความรับผิดชอบ ซีอีโอควรพิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารที่รับผิดชอบเต็มที่ในการดูแลการใช้งาน AI ภายในองค์กร และมีทีมงานที่ติดตามการใช้งาน AI ในทุกด้านและทุกขั้นตอนครอบคลุมตั้งแต่การฝึกอบรม การทดสอบ ไปจนถึงการตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจมีการใช้งาน AI อย่างมีจริยธรรม มีความเป็นส่วนตัว และมีความปลอดภัย นอกจากนี้ การที่บริษัทมีบุคคลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านนี้โดยเฉพาะ จะช่วยให้องค์กรนั้น ๆ สามารถจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่นความลำเอียงและการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  2. เสริมสร้างกำลังแรงงานที่มีศักยภาพพร้อมใช้ AI การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ประยุกต์ใช้เครื่องมือ AI แก่พนักงานจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับซีอีโออีกทางหนึ่ง โดยข้อมูลจากรายงานของเราพบว่า มีซีอีโอไทยเพียง 32% ที่วางแผนที่จะบูรณาการ AI เข้ากับกลยุทธ์และทักษะของกำลังแรงงานของบริษัท ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้นำธุรกิจอาจต้องมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างทักษะด้าน AI ให้กับพนักงานมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทราบและมีความเข้าใจว่าจะใช้เครื่องมือ AI ในงานของพวกเขาเมื่อใด และใช้อย่างปลอดภัยอย่างไร ซึ่งในประเด็นนี้ผมมองว่า การลดช่องว่างความไว้วางใจของพนักงานเป็นภารกิจสำคัญของการเป็นผู้นำ AI ที่มีความรับผิดชอบที่ซีอีโอควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
  3. วางแนวทางที่มีระบบในการสร้างคุณค่าด้วย AI  อีกหนึ่งความท้าทายสำหรับซีอีโอ คือ การสร้างคุณค่าจากการใช้งาน AI ในระดับที่กว้างขึ้น ซึ่งต้องมีการดำเนินการและวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การประเมินศักยภาพในการใช้งาน AI ในบริษัท การระบุกรณีการใช้งานที่มีความสำคัญ การจับคู่กรณีการใช้งานเข้ากับรูปแบบการใช้ GenAI ทั่วไป และการประเมินต้นทุนการดำเนินการทั้งด้านการเงินและสังคม รวมไปจนถึง การทดสอบการประยุกต์ใช้งาน AI ใหม่ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ ก่อนที่จะขยายการปรับใช้ไปยังพื้นที่อื่นของธุรกิจ เป็นต้น แนวทางที่เป็นระบบเหล่านี้จะทำให้ผู้บริหารมั่นใจได้ว่า AI ถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มประโยชน์สูงสุด ในขณะเดียวกัน ก็ควบคุมความเสี่ยงให้น้อยที่สุดด้วย  

 

คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่า การปิดช่องว่างความไว้วางใจใน AI มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะส่งผลต่อการนำเทคโนโลยี AI มาใช้อย่างประสบความสำเร็จ หากซีอีโอสามารถจัดการกับช่องว่างนี้ได้ ก็จะทำให้โครงการริเริ่มด้าน AI มีความสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ และสามารถสร้างมูลค่าจากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการและวิธีการทำงานในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างเต็มศักยภาพ 

 

ภาพ: bakhtiar_zein / Getty Images 

 

อ้างอิง​:  

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising