วันนี้ (1 พฤษภาคม) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยผลการปฏิบัติงานที่น่าพอใจของ ‘AI Police Cyborg 1.0’ หรือหุ่นยนต์ตำรวจอัจฉริยะในชุดเครื่องแบบ ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า ‘นครปฐม ปลอดภัย’ ที่พัฒนาขึ้นโดยตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ภายใต้การกำกับดูแลของตำรวจภูธรภาค 7 โดยหลังจากเปิดตัวและนำไปติดตั้งปฏิบัติหน้าที่ในงานเทศกาลและสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครปฐม ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ระบบ AI ของหุ่นยนต์ดังกล่าวสามารถตรวจจับและนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้วถึง 14 ราย
AI Police Cyborg 1.0 เป็นนวัตกรรมที่เกิดจากการนำหุ่นจำลองตำรวจมาติดตั้งกล้อง AI อัจฉริยะรอบตัว และเชื่อมต่อกับระบบประมวลผล AI ส่วนกลาง ซึ่งสามารถดึงข้อมูลจากกล้อง CCTV ทั่วไปและโดรนในพื้นที่เข้ามาวิเคราะห์ร่วมกันได้ ทำให้กล้องธรรมดามีความสามารถในการวิเคราะห์วิดีโอ (Video Analytics) ที่ล้ำสมัย เช่น การจดจำใบหน้าเทียบฐานข้อมูลหมายจับ (Blacklist Face Recognition) การติดตามบุคคลต้องสงสัย การค้นหาบุคคลจากรูปพรรณสัณฐาน (Advanced Search) การตรวจจับอาวุธ และการตรวจจับพฤติกรรมรุนแรง โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งไปยังศูนย์ควบคุมและสั่งการ (CCOC) เพื่อบริหารจัดการความปลอดภัย
รายงานจากตำรวจภูธรภาค 7 ระบุว่า ผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 14 ราย มาจากการติดตั้งระบบ AI Police Cyborg 1.0 ในหลายพื้นที่ อาทิ สนามไก่ชน พุทธมณฑลสาย 5 (จับกุม 4 ราย ในคดียาเสพติด, ลักทรัพย์, พยายามฆ่า, อาวุธปืน), ตลาดนัดเครื่องบิน สภ.เมืองนครปฐม (จับกุม 5 ราย ในคดียาเสพติด, ลักทรัพย์, ฉ้อโกง, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ), พื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม (จับกุม 1 ราย คดียาเสพติด, พ.ร.บ.เรี่ยไร) และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลศาลายา (จับกุม 4 ราย คดีจำหน่ายยาเสพติด, บัญชีม้า)
ด้าน กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวแสดงความชื่นชมอย่างยิ่งต่อผลงานนี้ โดยระบุว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าประทับใจซึ่งตำรวจเป็นผู้คิดค้นพัฒนาขึ้นเองด้วยงบประมาณไม่สูง โดยได้รับการสนับสนุนด้านกล้อง AI จากเทศบาลนครนครปฐม หุ่นยนต์นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนโดยไม่ต้องใช้กำลังพลจำนวนมาก แม้ประชาชนจะเข้ามาถ่ายรูปใกล้ๆ โดยไม่ทราบว่ากำลังถูกระบบ AI ตรวจสอบเทียบฐานข้อมูลหมายจับก็ตาม
“เราอยากให้ประชาชนรู้ ให้คนร้ายกลัวว่าเรามีระบบแบบนี้ เราจะก้าวไป” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าว พร้อมมอบนโยบายให้เร่งนำเทคโนโลยี AI มาช่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจให้มากขึ้นภายใน 6 เดือนข้างหน้า เพื่อลดอาชญากรรม ลดความเสี่ยง และอาจพิจารณาให้ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นต้นแบบในการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังหน่วยอื่นๆ ต่อไป