×

AI ปราบโกงไม่ได้ ถ้ายังไม่ Open Data by Default

โดย THE STANDARD TEAM
07.08.2025
  • LOADING...

ในช่วงPanel เจาะลึกของงาน “Corruption Disruptors: Empowering AI to Fight Corruption” จัดขึ้นโดยสำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับ THE STANDARD โดย ดร.มานะ นิมิตรมงคล, ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค (KRAC), คุณพันธ์ศักดิ์ เสตเสถียร (PwC), Ms. LEMINI (KPK) ดำเนินเวทีโดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่าแม้ AI จะมีศักยภาพและมีงบประมาณสนับสนุน แต่ยังคงมีความท้าทายที่สำคัญอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องข้อมูลเปิด (Open Data)

 

การขาดเจตจำนงทางการเมืองและการบังคับใช้กฎหมาย

 

  • อุปสรรคที่สำคัญที่สุด คือการขาดเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นจากผู้มีอำนาจในการเปิดเผยข้อมูลอย่างแท้จริงและบังคับใช้มาตรการต่อต้านการทุจริต

 

  • กรณี “แจกกล้วย” (การให้เงินแก่นักการเมือง) และการที่ สำนักงาน ปปง. (AMLO) ยกเลิกการตรวจสอบบุคคลที่มีสถานะทางการเมือง (PEPs) ในปี 2563 แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลทางการเมืองสามารถระงับการสืบสวนและทำให้เครื่องมือทางเทคโนโลยีไร้ผลได้ แม้ว่าจะมีข้อมูลอยู่ก็ตาม

 

  • หน่วยงานของรัฐ แม้จะกระตือรือร้นในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล แต่มักจะ ต่อต้านการเปิดหรือแบ่งปันข้อมูล เมื่อได้รับการร้องขอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้

 

การเข้าถึง คุณภาพ และมาตรฐานของข้อมูล

 

  • การเข้าถึงที่ยากลำบาก: แม้ว่าในทางเทคนิคข้อมูลจะ “เปิด” แต่ก็มักจะเข้าถึงได้ยาก (เช่น ต้องคลิกหลายครั้ง, ต้องใช้รหัสผ่าน หรือต้องมีรหัสโครงการเฉพาะ)

 

  • ข้อมูลล้าสมัยและไม่มีโครงสร้าง: ข้อมูลของรัฐจำนวนมากเป็นข้อมูลเก่าหรืออยู่ในรูปแบบที่เครื่องจักรไม่สามารถอ่านได้ (machine-readable) เช่น ไฟล์ PDF หรือเอกสารที่สแกนจากลายมือ ทำให้การประมวลผลด้วย AI เป็นไปไม่ได้

 

  • ขาดมาตรฐานกลาง: หน่วยงานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ เผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบที่ไม่สอดคล้องกัน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันและการวิเคราะห์ในภาพรวม ณ ขณะนี้ ยังไม่มีชุดข้อมูลใดในประเทศไทยที่เครื่องจักรสามารถอ่านได้เต็มรูปแบบตามมาตรฐานสากล

 

  • ประเด็น “เจ้าของข้อมูล” (Data Owner) ปะทะ “ผู้ใช้ข้อมูล” (Data User): มีความลังเลภายในองค์กรที่บุคคลจะรับผิดชอบในฐานะ “เจ้าของข้อมูล” ในขณะที่ทุกคนต้องการเป็นเพียง “ผู้ใช้ข้อมูล”

 

  • มิติของคุณภาพข้อมูล: คุณปานศักดิ์ชี้ให้เห็นว่าคุณภาพของข้อมูลมีหลายมิติ (เช่น ความถูกต้อง, ความสมบูรณ์, ความเป็นปัจจุบัน, ความสอดคล้องกัน) การจัดการมิติเหล่านี้ผ่านธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) ที่เข้มแข็งจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

กรอบกฎหมายและนโยบาย

 

  • พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการมีข้อจำกัด โดยมุ่งเน้นไปที่ “ข้อมูลของราชการ” มากกว่าที่จะส่งเสริมให้ “ข้อมูลสาธารณะ” เป็นทรัพยากรที่ใช้ร่วมกัน
  • พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) มักถูกตีความผิดเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการไม่เปิดเผยข้อมูลสาธารณะ แม้จะมีคำชี้แจงว่าข้อมูลเพื่อประโยชน์สาธารณะควรจะเปิดเผยได้
  • กฎระเบียบที่มีอยู่ เช่น ข้อกำหนดของ ป.ป.ช. ที่จำกัดการเข้าถึงบัญชีทรัพย์สินของประชาชนไว้เพียง 180 วัน (และต้องไปดูด้วยตนเอง ห้ามถ่ายภาพ) เป็นการจำกัดความโปร่งใสและขัดขวางการตรวจสอบโดยสาธารณะอย่างมีความหมาย

 

ข้อเสนอแนะเพื่อก้าวต่อไป:

 

  1. ปรับกระบวนทัศน์สู่ “ความซื่อสัตย์สุจริตเชิงออกแบบ” (Integrity by Design): ก้าวข้ามจากการ “จับคนผิด” ไปสู่การสร้างระบบที่ป้องกันการทุจริตในตัวเอง ผ่านกฎหมายที่ดี องค์กรที่โปร่งใส และวัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์และการมีส่วนร่วมของประชาชน
  2. ให้ความสำคัญกับ “การเปิดเผยข้อมูลเป็นหลัก” (Open Data by Default): หลักการคือต้องเปิดเผยข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น โดยมีข้อยกเว้นน้อยที่สุดและต้องระบุให้ชัดเจน
  3. สร้างมาตรฐานและทำให้เป็นดิจิทัล: มุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานรูปแบบข้อมูล (เช่น ให้เครื่องจักรอ่านได้) และทำให้ข้อมูลสาธารณะเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งต้องมีการลงทุนอย่างจริงจังในการทำความสะอาดและประมวลผลข้อมูล ไม่ใช่แค่การนำ AI มาใช้
  4. มุ่งเน้นชุดข้อมูลสำคัญ: เริ่มต้นจาก 7 ชุดข้อมูลสำคัญ ที่ระบุไว้เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่รวดเร็ว (เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง, PPPs, งบประมาณ, นิติบุคคล, การถือครองที่ดิน, ข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐ, และบัญชีทรัพย์สิน) การเชื่อมโยงชุดข้อมูลเหล่านี้สามารถสร้างข้อมูลสำคัญ เช่น ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (Beneficial Ownership – BO) ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการต่อต้านการฟอกเงิน
  5. ส่งเสริมความร่วมมือ: สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งขึ้นระหว่างหน่วยงานต่อต้านการทุจริต หน่วยงานรัฐอื่นๆ และภาคประชาสังคม โครงการของภาคประชาสังคมอย่าง ACT Ai แสดงให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมของพลเมืองเป็นสิ่งจำเป็นในจุดที่ทรัพยากรของรัฐไม่เพียงพอ
  6. ใช้ประโยชน์จากการเข้าเป็นสมาชิก OECD: การที่ไทยต้องการเข้าร่วม OECD ถือเป็นโอกาสพิเศษในการยกระดับมาตรฐานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการต่อต้านการทุจริต ข้อมูลเปิด และหลักนิติธรรม
  7. แสดงให้เห็นถึงประโยชน์: แสดงให้เห็นประโยชน์ที่จับต้องได้ของการเปิดข้อมูลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ (ภาครัฐ, ธุรกิจ, ประชาชน) เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนและเอาชนะแรงต้าน
  8. ไม่ต้องรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ: ย้ำว่าความก้าวหน้าไม่จำเป็นต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมหรือสมบูรณ์แบบ ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการเริ่มต้นลงมือทำทันที
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising