ในปี 2023 งานด้าน AI ถือเป็นโอกาสทองสำหรับนักศึกษาจบใหม่ชาวจีน เนื่องจากถูกเสนอเงินเดือนโดยเฉลี่ยสูงสุดแก่พวกเขาในทุกอุตสาหกรรม รายงานล่าสุดโดย Liepin แพลตฟอร์มจัดหางานของจีน ระบุว่า ผู้สำเร็จการศึกษาใหม่เข้าสู่สาขา AI สามารถคาดหวังเงินเดือนประมาณ 18,592 หยวน หรือราว 93,000 บาท เลยทีเดียว
แต่ไม่ใช่แค่ AI เท่านั้นที่ดึงดูดผู้สำเร็จการศึกษา บล็อกเชนเป็นสาขาที่ให้เงินเดือนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ตามมาด้วยอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น บริการดูแลผู้สูงอายุ การบิน อุปกรณ์การบินและอวกาศ และอุปกรณ์สื่อสาร โดยเสนอเงินเดือนตั้งแต่ 15,500-17,500 หยวน
แล้วเหตุใดอุตสาหกรรม AI จึงใจป้ำเป็นพิเศษ? ความต้องการบริการ AI ที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งคล้ายกับฟังก์ชันที่คล้ายกับ ChatGPT ถือเป็นเหตุผลสำคัญ บริษัทต่างๆ ต่างเร่งรีบในการรับสมัครผู้มีความสามารถด้าน Generative AI เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ ความคลั่งไคล้นี้ส่งผลให้เงินเดือนในภาค AI เพิ่มขึ้นถึง 40% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้าน AI ของจีนไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ล่าสุดเท่านั้น ข้อมูลของ Liepin เมื่อหลายปีก่อนแสดงให้เห็นว่า ความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา งานที่เน้นไปที่บอตสนทนาและการสร้างเนื้อหา AI นั้นเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง
แม้ว่า AI และบล็อกเชนจะมีเสน่ห์ แต่งานในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ อินเทอร์เน็ต และวิดีโอเกม ยังคงเป็นงานยอดนิยมในหมู่ผู้สำเร็จการศึกษา อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีความกระตือรือร้นลดลงเล็กน้อย ในทางกลับกัน บทบาทในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โทรคมนาคม และเซมิคอนดักเตอร์ ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่านับตั้งแต่ปี 2021
อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยแล้วผู้สรรหาบุคลากรในจีนเสนอเงินเดือนให้บัณฑิตที่ 10,342 หยวนในปี 2023 ซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 10,575 หยวนในปี 2022 แม้ว่าการลดลงนี้ Liepin มองว่าเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ตัวเลขเหล่านี้ยังคงแซงหน้าระดับปี 2021
ในการแข่งขันระหว่างเมืองต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถ ปักกิ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Baidu และ Meituan เป็นผู้นำด้วยการเสนอเงินเดือนโดยเฉลี่ยสูงสุด ตามมาด้วยเซี่ยงไฮ้ และเมืองที่เน้นเทคโนโลยีอย่างเซินเจิ้นและหางโจว
อย่างไรก็ตาม การระบุบริบทของการค้นพบเหล่านี้ให้สอดคล้องกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในปัจจุบันของจีนเป็นสิ่งสำคัญ ประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัว การว่างงานของเยาวชนที่เพิ่มขึ้น และห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงักหลังการแพร่ระบาดของโควิด ในขณะที่ผู้สำเร็จการศึกษาใหม่หลายล้านคนเข้าสู่ตลาดงาน อัตราการว่างงานสำหรับเยาวชน (อายุ 16-24 ปี) เพิ่มขึ้นเป็น 21.3% ในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้รัฐบาลต้องระงับการเปิดเผยข้อมูลการว่างงานของเยาวชน
อ้างอิง:
