ดูเหมือนว่าโจทย์ท้าทายของ HR อย่างการเฟ้นหาบุคลากรที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน การรักษา Talents คุณภาพให้อยู่กับองค์กร ไปจนถึงการคัดเลือกพนักงานโดยปราศจากอคติ (Non-biased Process) จะมีตัวช่วย เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพลิกโฉมการทำงานของ HR ยุคใหม่ไปแล้ว
ด้วยประสิทธิภาพของ AI ที่ช่วยให้การสรรหาบุคลากรที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์ตรงตาม Job Description ที่กำหนดแม่นยำขึ้น ทั้งยังช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก อย่างประวัติการลางาน, การอนุมัติค่าใช้จ่าย, การจัดการเงินเดือน, การประเมินผลงานพนักงาน, กระบวนการสร้างแพลตฟอร์มฝึกอบรม, ติดตามความก้าวหน้าของพนักงานใหม่ และฝึกอบรมพนักงานในองค์กร
AI จึงไม่เพียงช่วยลดขั้นตอนการทำงานและแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในงานของ HR แต่ยังช่วยสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรได้ในระยะยาว
องค์กรระดับโลกอย่าง Google ก็นำเครื่องมือ Predictive Analytics ที่วิเคราะห์หาคุณสมบัติที่เหมาะสมมาเป็นแนวทาง Predictive Hiring โดยประยุกต์ใช้โมเดลเทคโนโลยี Predictive ของตัวเองในการสรรหาบุคลากร โดยไม่อิงจากเกรดหรือสถาบัน แต่นำคุณลักษณะของบุคลากรที่สัมพันธ์กับการจ้างงานให้เกิดความสำเร็จเป็นตัวชี้วัด
หรือแม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง HP ก็สร้างโปรแกรม Flight Risk วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อคาดการณ์ว่าพนักงานคนใดมีแนวโน้มลาออก เช่นเดียวกับ Recruit Holdings บริษัทจัดหาพนักงานของญี่ปุ่น ก็นำ AI มาใช้ตรวจสอบพฤติกรรม ชั่วโมงการทำงาน และผลงานที่เกิดขึ้น มาเทียบกับข้อมูลของพนักงานที่เคยลาออก เพื่อค้นหาแนวโน้มการลาออก แม้แต่กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น (MHLW) เองก็กำลังพิจารณาที่จะนำ GenAI มาปรับปรุงบริการให้คำปรึกษาแก่ผู้หางานของ Hello Work หน่วยงานจัดหางานของรัฐ
ไม่แปลกถ้าจากนี้ไปจะเห็นองค์กรนำ AI เข้ามาใช้ในงาน HR มากขึ้น เพราะจากการสำรวจของ McKinsey ล่าสุดพบว่า กว่า 55% ขององค์กรเริ่มนำ AI มาใช้ และคาดว่าปี 2024 จำนวนบริษัทที่ใช้ AI จะเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะองค์กรไม่ได้มอง AI เป็นแค่เครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่มอง AI ในฐานะเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนกลยุทธ์การจัดการทรัพยากรบุคคล
สอดคล้องไปกับผลสำรวจจาก Gartner พบว่า ผู้นำองค์กรกว่า 38% วางแผนที่จะนำ GenAI มาใช้ โดยมีแนวโน้มการใช้เพิ่มขึ้นถึง 19% จากช่วงกลางปี 2023 มีความเป็นไปได้สูงว่า GenAI จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเสมือน ซึ่งผลสำรวจของ McKinsey ก็พบว่า ปัจจุบัน GenAI ได้รับการนำมาใช้ในงานของ HR โดยอุตสาหกรรมที่นำ AI มาใช้ในงาน HR มากที่สุด คือ เทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคม
รู้จัก SAP SuccessFactors เครื่องมือบริหารจัดการด้าน HR เต็มรูปแบบ
เรื่องที่ผู้นำองค์กรควรถกเถียงต่อจากนี้คือ จะเลือกเครื่องมือไหนมาช่วยบริหารจัดการข้อมูลด้านทรัพยากรบุคคลที่ครอบคลุมทุกงานของ HR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในเครื่องมือบริหารจัดการงาน HR แบบครบวงจรที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำในหลากหลายกลุ่มธุรกิจทั่วโลกก็คือ SAP SuccessFactors โซลูชันบริหารทรัพยากรบุคคลที่ให้บริการในรูปแบบ Cloud-Based Application ของ SAP บริษัทซอฟต์แวร์จัดการทรัพยากรองค์กรชั้นนำระดับโลก ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ความท้าทายของงานด้านทรัพยากรบุคคลเท่านั้น แต่จะช่วยสร้างพนักงานที่มีประสิทธิภาพและร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรที่ยั่งยืน จึงเป็นหนึ่งในโซลูชันด้าน HR ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก มีลูกค้าธุรกิจองค์กรที่ใช้งาน SAP SuccessFactors มากกว่า 9,900 องค์กร
ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานในหลากหลายธุรกิจ ทำให้ SAP สามารถพัฒนา Business AI ที่มีความเชี่ยวชาญในข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะในด้าน HR ที่ AI สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
SAP SuccessFactors Company Information Corporate Responsibility
ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานในหลากหลายธุรกิจ ทำให้ SAP ส่งมอบ Business AI ที่ได้รับการเทรนเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม ความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการทางธุรกิจ ทำให้ AI เปลี่ยนวิธีการทำงานของมนุษย์ไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในด้าน HR
เจาะฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใน SAP SuccessFactors
ทั้งนี้ SAP SuccessFactors ปฏิวัติเทคโนโลยี HR ด้วยฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนโดย AI ที่ผสานเข้ามาในแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความเป็นส่วนตัว และช่วยให้การตัดสินใจรวดเร็วยิ่งขึ้นบนพื้นฐานข้อมูลจริง โดยใช้ AI ในงาน HR ต่างๆ เช่น
- การสรรหาและคัดเลือกบุคลากร เป็นการใช้ Generative AI เข้ามาช่วยตั้งแต่สร้างคำบรรยายคุณสมบัติและลักษณะงาน ช่วยคัดกรองผู้สมัครงานอย่างรวดเร็ว โดยจับคู่ทักษะของผู้สมัครกับความต้องการของตำแหน่งงาน นอกจากนี้ยังสร้างคำถามในการสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับ Microsoft Teams ที่จะทำให้การใช้งานเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- การประเมินผลงานและปรับค่าตอบแทน โดยใช้ฟังก์ชัน AI-Assisted Writing ช่วยพนักงานร่างเป้าหมายการพัฒนาและประเมินผลการทำงาน ทำให้การตั้งเป้าหมายและการพัฒนาตนเองมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงการสรุปข้อมูลค่าตอบแทนและประวัติการทำงานจากข้อมูลใน SAP SuccessFactors ทำให้ผู้ประเมินมีข้อมูลครบถ้วนและแม่นยำเมื่อต้องพิจารณาค่าตอบแทน
- การพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ ด้วยฟังก์ชัน AI-Driven Recommendations แนะนำการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคน เพื่อพัฒนาทักษะในสายงาน โดยมี Talent Intelligence Hub เป็นศูนย์กลางข้อมูลทักษะที่ใช้ AI เพื่อสร้างแฟ้มสะสมทักษะสำหรับพนักงานแต่ละคน โดยอิงจากข้อมูลจากการประเมินผลการทำงาน รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อแนะนำโอกาสในการเรียนรู้และการเติบโตในองค์กร เช่น การมอบหมายงานใหม่ การฝึกอบรม และการให้คำปรึกษา เรียกได้ว่าเป็นการใช้ AI เพื่อปลดล็อกศักยภาพและทักษะของพนักงานอย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยสำคัญที่ชื่อ Joule (จูล) ซึ่งเป็น AI-Powered Assistant ที่จะมาเป็นผู้ช่วยด้านการสร้างภาษาแบบธรรมชาติ ทำให้เข้าใจคำขอและตอบสนองด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ โดยมีการใช้งานในหลากหลายธุรกิจ โดยเฉพาะการจัดการงานด้าน HR ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกในการทำงานของพนักงาน ผ่านฟีเจอร์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น การค้นหานโยบายบริษัท, การอนุมัติคำขอลาหยุด, การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว, การขอโปรโมชัน, การให้คำแนะนำในการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ของพนักงาน ไปจนถึงการสรุปข้อมูลการทำงานของพนักงาน เพื่อช่วยให้ผู้จัดการสามารถมีข้อมูลเชิงลึกของพนักงาน
การใช้ AI ใน SAP SuccessFactors ไม่เพียงช่วยให้พนักงานเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เข้าถึงงาน HR ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการทำงานที่ซ้ำซ้อน แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีของพนักงานและผู้สมัครงานอีกด้วย
และเพื่อให้แน่ใจว่า AI ได้รับการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์และมีความรับผิดชอบ SAP จึงมีคณะกรรมการดูแลแนวปฏิบัติจริยธรรมมาดูแลเรื่องความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ในการพัฒนาและการใช้งาน AI โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ไม่มีอคติ ส่งเสริมความเท่าเทียมในธุรกิจ และเป็นประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรอย่างสูงสุด
รู้จัก ABeam Consulting Thailand บริษัทที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation ตัวจริง
ต่อให้มีเครื่องมือที่ดี แต่ขาดที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือ หรือไม่มีความเข้าใจในการทรานส์ฟอร์มองค์กรธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม ก็อาจเป็นการลงทุนในเทคโนโลยี AI ที่สูญเปล่า
ถ้าให้นึกถึงบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation แบบครบวงจร ชื่อของ ABeam Consulting จะต้องเป็น Top of Mind ขององค์กรชั้นนำมากมาย เพราะตั้งแต่ปี 1981 ที่เริ่มก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น จนถึงปัจจุบัน ABeam Consulting ขยายธุรกิจไปใน 13 ประเทศ 28 สำนักงาน ทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย มีที่ปรึกษากว่า 8,300 คน มีโปรเจกต์ภายใต้การบริหารกว่า 6,000 โปรเจกต์ และมีลูกค้าที่ดูแลมากถึง 1,100 องค์กร
ABeam Consulting เป็นบริษัทแรกที่เข้าร่วมโครงการ Regional Strategic Services Partner (RSSP) ของ SAP ซึ่งช่วยให้ ABeam Consulting ได้รับการสนับสนุนเชิงกลยุทธ์จาก SAP รวมถึงการพัฒนาโซลูชันที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรม การร่วมมือในการทำตลาด และการเข้าถึงความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ SAP ที่สำคัญยังช่วยให้พันธมิตรขยายการให้บริการ SAP ได้อย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และจากการทำ Digital Transformation ร่วมกับหลายองค์กร ABeam Consulting ตระหนักถึงการที่ลูกค้าให้ความสนใจในเรื่อง AI เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน จึงทุ่มเทเรียนรู้การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาสนับสนุนในแต่ละธุรกิจและสายงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงาน
สำหรับประเทศไทย ABeam Consulting เข้ามาปักหมุดในปี 2005 โดยขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์ของการเป็น Real Partner ที่พร้อมเดินทางไปกับลูกค้าในฐานะพันธมิตรที่แท้จริง เพื่อส่งมอบโซลูชันและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ภายใต้สโลแกน ‘Build Beyond As One’ ที่ให้ความสำคัญในการทำให้แผนการ Digital Transformation เป็นความจริง ด้วยการยกระดับ Value ใหม่ บนหัวใจสำคัญของความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างทีม ลูกค้า และพันธมิตร
ปัจจุบัน ABeam Consulting Thailand ดูแลลูกค้าทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 200 ราย ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำในหลากหลายธุรกิจ
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีทีม Human Capital Management ที่มีบริการครอบคลุมและหลากหลาย เพื่อให้องค์กรสามารถใช้งาน HR Cloud Solution ตั้งแต่การทำงานร่วมกับ HR เพื่อออกแบบแนวทางการใช้เครื่องมือให้ตอบสนองความต้องการของแต่ละองค์กร จัดเตรียมกลยุทธ์ แผนการสื่อสาร และโปรแกรมฝึกอบรมให้พร้อมใช้งาน ไปจนถึงติดตามและคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด โดยแบ่งการให้บริการดังนี้
- HR Transformation Consulting: ทำงานร่วมกับผู้บริหารและ HR ในการพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์ด้านงาน HR ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงในตลาด วิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการ HR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการทำงาน
- HR Technology: ร่วมออกแบบและวางแผนโปรเจกต์ในการใช้งาน SAP SuccessFactors เต็มรูปแบบ รวมถึงอบรมการใช้งาน
- Change and Adoption Management: ช่วยจัดเตรียมกลยุทธ์ แผนการสื่อสาร และโปรแกรมฝึกอบรม เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรพร้อมที่จะนำระบบใหม่ไปใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- Application Maintenance Services: ให้การสนับสนุน ติดตาม และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการใช้งานระบบ รวมไปถึงอัปเดตฟีเจอร์และฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์
- Ecosystem Applications: ครอบคลุมกระบวนการทำงานของ HR ในทุกด้าน โดยสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่นๆ เช่น การใช้ AI ใน Microsoft Teams การประเมินความพึงพอใจพนักงานโดยเชื่อมต่อกับระบบ Qualtrics ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงการเรียนรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยใช้ Digital Adoption Platform เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ ABeam Consulting Thailand คว้ารางวัลจาก SAP มาโดยตลอด ตอกย้ำการเป็น Real Partner ตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Best RISE Partner of the Year 2021, Best Cloud Partner of the Year 2021, Outstanding Performance in SuccessFactors 2022 และในปี 2024 ก็กวาด 4 รางวัลทรงเกียรติในฐานะพันธมิตร SAP ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ Best Partner of the Year for Thailand, Best Success Factors (HCM) Partner for Thailand, Best BTP Partner Southeast Asia และ Best RISE Partner for Thailand ทั้งหมดนี้ยังสะท้อนการเป็นผู้นำด้าน Digital Transformation ครบวงจรเบอร์ 1 ของทวีปเอเชียอีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าคุณเป็นหนึ่งในฟันเฟืองของฝ่ายทรัพยากรบุคคลคงพอเห็นภาพแล้วว่า หากใช้ AI ถูกที่ถูกทาง เข้าใจถึงประสิทธิภาพของปัญญาประดิษฐ์อย่างแท้จริง AI จะเข้ามามีบทบาทในการทำงานของ HR อย่างมาก เรียกว่าตั้งแต่กระบวนการสรรหาคน, รักษาคนเก่าให้อยู่ต่อ, ช่วยวางแพลน และประเมินทุกอย่างจากฐานข้อมูลจริง ส่งผลให้การทำงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลเป็นไปอย่างเหมาะสมและทันสมัย มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญ AI ช่วยลดเวลาการทำงานในหลายด้าน ทำให้พนักงานและ HR นำศักยภาพไปใช้ในงานสร้างสรรค์เชิงกลยุทธ์มากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าและนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้องค์กรเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน
และถ้าคุณเป็นผู้นำองค์กรหรือผู้บริหารที่เชื่อมั่นว่าบุคลากรคือฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันองค์กรให้เติบโต AI มีความสำคัญอย่างไรในการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะในยุคที่การบริหารทรัพยากรบุคคลมีความท้าทายทั้งการสรรหาบุคลากร, พัฒนาทักษะของพนักงาน, รักษาคนเก่ง และขับเคลื่อนองค์กรให้ทันคู่แข่ง AI จะช่วยให้ทุกอย่างง่ายและเร็วขึ้น ที่สำคัญผู้ปฏิบัติงาน HR เองก็จำเป็นต้องพัฒนาทักษะเรียนรู้การใช้งาน AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการยกระดับการจัดการทรัพยากรบุคคลนั่นเอง
อ้างอิง:
- https://thestandard.co/mhlw-chatgpt-recruitment/
- https://www.hrmorning.com/articles/ai-in-2024-trends/
- https://www.thepeoplespace.com/ideas/articles/top-7-insights-stanfords-ai-index-2024-every-hr-and-people-leader-needs-know
- https://www.shrm.org/topics-tools/news/employers-embrace-artificial-intelligence-hr
- https://www.sap.com/products/artificial-intelligence/human-resources.html?pdf-asset=2a8e66b9-6c7e-0010-bca6-c68f7e60039b&page=1