×

Agoda มองบวกปี 2026 ท่องเที่ยวไทยโตต่อ แม้เจอมรสุมข่าวลบ ตั้งเป้าปั้นกรุงเทพเป็น Silicon Valley แห่งเอเชีย

04.12.2025
  • LOADING...
Agoda มองบวกปี 2026 ท่องเที่ยวไทยโตต่อ แม้เจอมรสุมข่าวลบ ตั้งเป้าปั้น กรุงเทพ เป็น Silicon Valley แห่ง เอเชีย

Agoda เผย 3 เหตุผลหนุนการท่องเที่ยวไทยโตต่อในปี 2026 ‘รัฐบาลไทยปรับตัวเก่ง – อีเวนต์ระดับโลก – พึ่งพิงนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม’

 

Agoda แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก เผยภาพรวมการท่องเที่ยวไทยปี 2025 และแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี 2026 โดย ออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Agoda มองว่า ในช่วงที่ผ่านมา แม้ประเทศไทยจะเผชิญข่าวลบที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการก่ออาชญากรรมของกลุ่มสแกมเมอร์ การลักพาตัวนักร้องชาวจีนในประเทศไทย เหตุการณ์แผ่นดินไหวเดือนมีนาคม ความขัดแย้งแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การออกกฎหมายห้ามนักท่องเที่ยวบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่บริการ ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น. และล่าสุดกับ ‘วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้’ ซึ่งสร้างความเสียหายหนักต่อพื้นที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

 

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนบั่นทอนความเชื่อมั่น ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน อย่างไรก็ตามจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมของไทยยังครองอันดับหนึ่งในภูมิภาค

 

สำหรับแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยปี 2026 Agoda มีมุมมองบวกว่า ไทยจะยังเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะมีจุดขาย (Unique Selling Point) จากการเป็นประเทศใหญ่ ที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รสชาติอาหาร ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากมาสัมผัสประสบการณ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก 3 ด้าน

 

1. รัฐบาลไทย มีความคิดสร้างสรรค์ ปรับตัวเก่งภายใต้ความท้าทาย
ล่าสุด Agoda ได้เข้าร่วมโครงการ ‘Trusted Thailand’ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว โดยมอบตราสัญลักษณ์ให้กับสถานประกอบ การโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐาน ด้านการท่องเที่ยวและความปลอดภัย

 

2. จัดอีเวนต์ใหญ่ระดับโลก
การที่รัฐบาลส่งเสริมให้จัดกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ภายในประเทศตลอดทั้งปี รวมถึงการดึงอีเวนต์ใหญ่ระดับโลกมาจัดที่ประเทศไทย เช่น ‘Tomorrowland’ เทศกาลดนตรี EDM ที่จัดขึ้นที่ไทยเป็นครั้งแรกในเอเชีย ซึ่งเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางมาประเทศไทย

 

3. ไม่พึ่งพานักท่องเที่ยวกลุ่มเดียว
ปัจจุบันประเทศไทยกระจายความเสี่ยงได้ดี มีรายได้จากนักท่องเที่ยวหลายประเทศ จะเห็นได้จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก มีสัดส่วนเพียง 35% ของจำนวนผู้ที่เดินทางมาไทยทั้งหมด การท่องเที่ยวไทยมีความยืดหยุ่นสูง ยังเติบโตได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอน

 

สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวไทยปีนี้ ข้อมูลจากแพลตฟอร์มของ Agoda พบว่า ไทยยังเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยม โดย 5 อันดับประเทศที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด ได้แก่ 1.มาเลเซีย 2.จีน 3.เกาหลีใต้ 4.อินเดีย และ 5.ญี่ปุ่น

 

ในปี 2025 มาเลเซียกลายเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย แซงหน้าจีน เช่นเดียวกับอินเดียที่นิยมมาไทยมากขึ้น จนขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 เพิ่มขึ้นสองอันดับจากปีก่อนหน้า

 

เมื่อจัดอันดับจุดหมายปลายทางยอดนิยมในไทย พบว่า 5 จังหวัดแรกที่นักท่องเที่ยวนิยมไป ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 2.ภูเก็ต 3.พัทยา 4.เชียงใหม่ 5.หาดใหญ่ สอดคล้องกับอันดับเที่ยวบินยอดนิยมระดับโลก ซึ่งกรุงเทพฯ ครองแชมป์อันดับ 1

 

ทั้งนี้พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจุดขายของไทย ทั้งอาหาร การชอปปิง สถานที่ท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ยังเป็นจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากมาสัมผัสประสบการณ์ต่างวัฒนธรรม

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดกระตุ้นให้คนอยากเดินทางได้มากกว่า “ราคา” เพื่อตอบรับการเติบโตของชนชั้นกลางทั่วโลก ซึ่งมีกำลังการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และท่องเที่ยวมากขึ้น ประเทศไทยต้องวางตำแหน่งตัวเอง เป็นประเทศท่องเที่ยวที่ราคาเข้าถึงง่าย เพื่อดึงดูดให้คนมาเที่ยวต่างประเทศ แทนที่จะเที่ยวในประเทศตัวเอง

 

ปั้นกรุงเทพเป็น Silicon Valley ดึงคนเก่งเสริมทัพธุรกิจ B2B

 

สำหรับการย้ายสำนักงานใหม่ไปที่อาคาร One Bangkok โดยลงทุนเช่าพื้นที่ 26,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 7 ชั้น เพื่อรองรับพนักงานกว่า 4,000 คน ออมรี เปิดเผยว่า แรงจูงใจสำคัญ คือ Agoda ต้องการขยายธุรกิจจาก B2C สู่ B2B จึงต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและโปรดักต์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ จึงเลือกลงทุนขยายสำนักงานในประเทศไทย เพราะเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็น Tech hub และอยากปั้นกรุงเทพให้เป็นซิลิคอนแวลลีย์ เมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยคนทำงานจากต่างประเทศ (Expat) และแรงงานในประเทศที่มีทักษะเทคโนโลยีระดับสูง

 

ทั้งนี้ สำนักงานใหม่ไม่ได้แค่รองรับพนักงานคนไทยเท่านั้น แต่ยังรองรับพนักงานทักษะสูง ทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในช่วงที่ผ่านมา และจะช่วยผลักดันให้องค์กรเติบโตในแนวตั้ง (Vertical Growth) ในอนาคต

 

เตรียมบุก Fintech เอาใจสายเที่ยว ไม่มีเงินก้อน

 

การมุ่งเน้นทำธุรกิจแบบ B2B เป็นเป้าหมายหลักของทั้ง Agoda และบริษัทในเครือ Booking Holdings เพราะมีกลุ่มลูกค้าออฟไลน์ที่แพลตฟอร์มจองทริปท่องเที่ยวยังเข้าไม่ถึง ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพในการสร้างรายได้ Agoda จึงต้องร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ที่มีลูกค้าในมือ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

 

1. กลุ่มจองห้องพักผ่านที่พักโดยตรง หรือจองผ่านเอเจนซีท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ใช้ Booking platform

 

2. กลุ่มลูกค้าที่จองที่พัก ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต ผ่านโปรแกรม Loyalty reward ซึ่งใช้คะแนนสะสม แลกเป็นส่วนลดค่าที่พักหรือบริการพิเศษอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Agoda ให้ไม่ได้

 

นอกจากนี้ ในอนาคต Agoda มีแผนที่จะให้บริการ Fintech กับลูกค้า เนื่องจากเห็น pain point ในบริการชำระเงินที่ยังมีรอยต่อ ทำให้การชำระเงินไม่ต่อเนื่อง และปัญหาค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง บริษัทจะใช้จุดแข็งจากธุรกิจ B2C มาต่อยอดให้บริการปล่อยกู้ เพื่อลดภาระด้านการท่องเที่ยว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising