วานนี้ (8 ธันวาคม) กลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงจำนวนนับแสนคน ร่วมเดินขบวนไปตามท้องถนน เพื่อแสดงพลังในโอกาสครบรอบ 6 เดือน ของการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่จะครบกำหนดในวันนี้ (9 ธันวาคม) และถือเป็นการเดินขบวนประท้วงครั้งแรกที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากทางการนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
การเดินขบวนเปิดฉากตั้งแต่ช่วงบ่าย เริ่มจากบริเวณสวนสาธารณะวิกตอเรีย มุ่งหน้าไปยังย่านธุรกิจในเขตเซ็นทรัลใจกลางเมือง บรรยากาศการเดินขบวนส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ แต่เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงค่ำ เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงบางคนขว้างระเบิดเพลิงใส่ประตูทางเข้าศาลสูงและศาลอุทธรณ์สูงสุด ทำให้รัฐบาลฮ่องกง, กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจของฮ่องกง ต้องออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของผู้ประท้วงที่ท้าทายกฎหมายอย่างร้ายแรง
“ใครก็ตามที่โจมตีหรือทำลายศาล จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อกฎหมายฮ่องกง และจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมทุกภาคส่วน” โฆษกรัฐบาลกล่าว
ด้านกลุ่มแนวร่วมพลเมืองสิทธิมนุษยชน ผู้จัดการเดินขบวนประท้วงครั้งนี้ อ้างว่า มีประชาชนเข้าร่วมเดินขบวนมากกว่า 8 แสนคน ขณะที่สำนักงานตำรวจฮ่องกงระบุว่า มีผู้ร่วมเดินขบวนสูงสุดไม่เกิน 183,000 คน
“ข้อความทางการเมืองของพวกเรานั้นชัดเจน ประชาชนนั้นเหนียวแน่นและเด็ดเดี่ยวกับข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ” เอริค หลี เอินเฮ่า รองประธานแนวร่วมพลเมืองสิทธิมนุษยชนกล่าว พร้อมเรียกร้อง แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ให้ตอบรับข้อเรียกร้องของพวกเขา ซึ่งรวมถึงการตั้งคณะกรรมการสืบสวนอิสระกรณีการใช้ความรุนแรงของตำรวจต่อกลุ่มผู้ประท้วง
ขณะที่ก่อนการเดินขบวนไม่กี่ชั่วโมง ตำรวจเปิดเผยว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 11 คน หลังเข้าตรวจค้นและพบอาวุธ ทั้งปืนพก 9 มม. และมีดหลายเล่ม รวมถึงอาวุธอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่
การประท้วงใหญ่ของกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน โดยมีชนวนจากกระแสความไม่พอใจที่รัฐบาลพยายามผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนฉบับใหม่ เปิดทางให้จีนขอส่งตัวศัตรูทางการเมืองที่อยู่ในฮ่องกง ขณะที่สถานการณ์ประท้วงลุกลามและทวีความรุนแรงต่อเนื่อง จนขยายเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลไปในที่สุด ถือเป็นวิกฤตการณ์ที่สั่นสะเทือนฮ่องกง ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองที่อยู่ใต้อำนาจของจีนแผ่นดินใหญ่
อ้างอิง:
