เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา แอ๊ด-ยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ได้ประกาศจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายในวันที่ 1 เมษายน 2567 ก่อนที่จะยุติบทบาทของวงคาราบาวอย่างเป็นทางการ หลังจากที่พวกเขาโลดแล่นอยู่ในวงการดนตรีมายาวนานร่วม 40 ปี
โดยในระหว่างที่ แอ๊ด คาราบาว เดินทางมาร่วมแสดงที่งาน Bom Sincharoen Fanmeet No.4 เขาได้แจ้งให้แฟนเพลงที่มาร่วมงานได้ทราบถึงแผนการยุติบทบาทของวงคาราบาว เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นและสุขภาพของสมาชิกวงแต่ละคน เขาจึงคิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่พวกเขาจะหยุดพัก โดยหลังจากที่ยุติบทบาทของวง แอ๊ดจะยังคงทำงานในฐานะคนทำเพลงร่วมกับศิลปินรุ่นใหม่ต่อไป
แอ๊ดได้กล่าวถึงเหตุผลในการยุติบทบาทของวงช่วงหนึ่งว่า “วงคาราบาวจะมีคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายในวันที่ 1 เมษายน 2567 แล้วก็จะเลิกทำวงเลยนะครับ นี่บอกกับพี่น้องเลย เพราะว่ามันไม่ไหวแล้ว มันแก่กันหมดแล้ว 3 วันดี 4 วันไข้ ตอนนี้นั่งข้างๆ ผมก็ 2 คน แล้วอีก 2 คนนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล ก็เพิ่งจะฟื้นแล้วก็กลับมาเล่น มันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปลดปล่อย ยอมรับความจริงว่าเราแก่ แต่เราก็ยังเก๋าอยู่นะครับ ใครอยากจะไปเล่นกับใคร ใครอยากจะทำอะไรก็ตามสบาย”
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นการประกาศจากทางฝั่งของแอ๊ดในฐานะนักร้องนำและหัวหน้าวงเพียงคนเดียว โดยต้นสังกัด Warner Music Thailand ยืนยันกับ THE STANDARD POP ว่า ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้อย่างเป็นทางการกับวงคาราบาวแต่อย่างใด
แฟนเพลงของวงคาราบาวต้องรอติดตามรายละเอียดอย่างเป็นทางการจากค่าย Warner Music Thailand รวมถึงสมาชิกวงคนอื่นๆ อีกครั้งในอนาคต ว่าคำประกาศครั้งนี้จะเป็นจริงตามนั้นหรือไม่?
สำหรับวงคาราบาวถือเป็นหนึ่งในวงดนตรีเพื่อชีวิตระดับตำนานของวงการเพลงไทย ที่เริ่มต้นก่อตั้งวงขึ้นในปี 2523 โดย 3 สมาชิกรุ่นก่อตั้ง ได้แก่ แอ๊ด, เขียว-กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร และ ไข่-สานิตย์ ลิ่มศิลา และได้ปล่อยผลงานเพลงคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น เมด อิน ไทยแลนด์ อัลบั้มชุดที่ 5 ของวงที่สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 5 ล้านตลับ ซึ่งบรรจุเพลงยอดฮิตไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เมด อิน ไทยแลนด์, มหาลัย, ลูกหิน ฯลฯ และสร้างสถิติเป็นอัลบั้มเพลงของศิลปินไทยที่ทำยอดขายสูงที่สุดของประเทศไทย ณ เวลานั้น
ปัจจุบันวงคาราบาวมีสมาชิกทั้งหมด 8 คน ได้แก่ แอ๊ด, เล็ก-ปรีชา ชนะภัย, เทียรี่-สุทธิยงค์ เมฆวัฒนา, อ๊อด-เกริกกำพล ประถมปัทมะ, ดุก-ลือชัย งามสม, หมี-ขจรศักดิ์ หุตะวัฒนะ, โก้-อัทธนันต์ ธนอรุณโรจน์ และ อ้วน-ธนะสิทธิ์ พันธุ์พงษ์ไทย
อ้างอิง: