พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังตรวจความพร้อมบริเวณธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ หลังกลุ่มราษฎรนัดหมายชุมนุมตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันนี้ ยังยืนยันว่าการชุมนุมของกลุ่มราษฎรจะต้องอยู่บนทางเท้า และต้องไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น จะชุมนุมได้เพียงบนทางเท้าหน้าถนนธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น จากการประเมินยังไม่จำเป็นต้องปิดการจราจร แต่ถ้ามีการรวมตัวกันมากขึ้นในช่วงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่ประชาชนเดินทางกลับหลังเลิกงาน จะส่งผลกระทบในเส้นทางอย่างแน่นอน โดยเฉพาะถนนรัชดาภิเษกขาออกลงอุโมงค์แยกรัชโยธิน
ส่วนถนนพหลโยธินอาจจะได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงอยากแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางนี้และวางแผนการเดินทางให้ดี และอย่าเข้ามาในเส้นทางที่มีการชุมนุมถ้าไม่จำเป็น
พร้อมย้ำว่าการทำหน้าที่ของตำรวจไม่ได้มุ่งที่จะควบคุมประชาชนหรือมาเพื่อสลายการชุมนุม แต่มาเพื่อทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายโดยยึดหลักนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์
ส่วนอุปกรณ์รถคลื่นเสียงสำหรับการควบคุมฝูงชน หรือ LRAD นั้นตำรวจยังไม่คิดจะนำมาใช้ ยังต้องประเมินสถานการณ์ก่อน ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะใช้อะไร ใช้เมื่อไร นานแค่ไหน ส่วนเรื่องการใช้ตำรวจไปหาข่าว ไม่ว่าจะในเครื่องแบบหรือนอกเครื่องแบบก็เป็นเรื่องปกติ
รองโฆษกยังกล่าวอีกว่า การชุมนุมครั้งนี้แกนนำยังไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งถือว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อยากเรียกร้องให้กลุ่มราษฎรชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ ให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย
ขณะเดียวกันแม้ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่จะแจ้งปิดทำการ 1 วัน แต่อาคารอื่นๆ ยังมีพนักงานบางส่วนที่มาทำงาน รวมถึงมีตำรวจในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบอยู่
ส่วนเรื่องการถอนตู้คอนเทนเนอร์ แท่งแบริเออร์ และแนวรั้วลวดหนามบริเวณหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นการป้องกันตามแผนรักษาความปลอดภัย ยังตอบไม่ได้ว่าจะนำออกตอนไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนกำลังตำรวจที่ตรึงกำลังในอาคารและรอบๆ มีทั้งหมด 4 กองร้อย ประกอบด้วย ตำรวจ ตชด. 2 กองร้อย และตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 กองร้อย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า