×

สว. 67 : ศาลปกครองสั่งเพิกถอนระเบียบ กกต. เรื่องการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ด้านเลขาฯ กกต. น้อมรับคำสั่งศาล

โดย THE STANDARD TEAM
24.05.2024
  • LOADING...
ศาลปกครอง กกต.

วันนี้ (24 พฤษภาคม) ที่ศาลปกครองกลาง สืบเนื่องจากกรณีที่ เทวฤทธิ์ มณีฉาย บรรณาธิการสำนักข่าวประชาไท ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ออกระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ศาลปกครองได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ระเบียบข้อ 7 ที่ระบุว่า การใช้เอกสารแนะนำตัวของผู้สมัครให้ไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4 นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายพิจารณาตามมาตรา 78 ประกอบกับมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญ 

 

มาตราดังกล่าวมีเจตนารมณ์ให้เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ซึ่ง สว. มีหน้าที่ออกกฎหมายที่บังคับกับประชาชนคนไทย การทำหน้าที่ของ สว. ย่อมมีผลกระทบต่อประชาชน จึงควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ 

 

ในเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 กำหนดให้ผู้สมัครคัดเลือกกันเอง ไม่ได้ให้ประชาชนมีสิทธิเลือก สว. ด้วย แต่เมื่อเทียบสัดส่วน สว. กับประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ถือว่ามีสัดส่วนน้อยมาก ดังนั้น ระเบียบข้อ 7 ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 78, 3, 26 ที่บัญญัติถึงการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ต้องไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคล และต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 

 

โดยศาลระบุว่า ระเบียบการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. มีสถานะเป็นกฎ ไม่ใช่เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การออกกฎย่อมไม่ขัดแย้งต่อบทบัญญัติกฎหมาย เพราะตัวกฎหมายไม่อาจขัดต่อหลักนิติธรรม และจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยไม่มีเหตุ

 

นอกจากนี้ ศาลมองว่าระเบียบ กกต. ข้อ 7 ที่กำหนดเนื้อหาที่ระบุในเอกสารแนะนำตัวได้เฉพาะข้อมูลส่วนตัว และรูปถ่ายของผู้สมัคร ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ในการทำงานเท่านั้น โดย กกต. อ้างเหตุผลว่าเพื่อความเท่าเทียมระหว่างผู้สมัคร แต่ข้อเท็จจริง ประวัติและประสบการณ์ของผู้สมัครแต่ละคนไม่เท่ากัน มีความรู้ความสามารถในหน้าที่แตกต่างกัน การกำหนดปริมาณเนื้อหาและเอกสารจึงเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้สมัคร สว. เกินกว่าเหตุ และถือว่าไม่เป็นการรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคล หรือเพื่อรักษาศีลธรรมอันดีของประชาชน ระเบียบข้อ 7 นี้ จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญในมาตรา 26, 34 

 

ส่วนที่ กกต. ได้ออกระเบียบข้อ 7 ฉบับที่ 2 มีการแก้ไขเนื้อหาสาระสำคัญในการกำหนดข้อความของผู้สมัคร ให้ผู้สมัครแนะนำตัวได้ตามเอกสาร 2 หน้ากระดาษ A4 ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายกับฉบับที่ 1 ศาลพิเคราะห์ว่า ระเบียบข้อ 7 ในประกาศฉบับที่ 2 ไม่ชอบด้วยหลักกฎหมายด้วยเช่นกัน

 

ส่วนระเบียบข้อที่ 8 ที่มีการกำหนดหลักเกณฑ์ว่า ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยตนเอง และเผยแพร่แก่ผู้สมัครอื่นเท่านั้น จะส่งผลให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้สมัคร สว. ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของทั้งประเทศ ไม่ทราบข้อมูลของผู้สมัคร สว. ได้ 

 

ศาลพิเคราะห์ว่า ระเบียบข้อ 8 ไม่บรรลุถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเช่นกัน ทั้งที่ สว. เป็นผู้แทนประชาชน มีบทบาทในการออกกฎหมายที่กระทบกับประชาชน แต่ระเบียบนี้ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจทางการเมือง รวมถึงมีส่วนร่วมในการเลือก สว. การที่ประกาศกำหนดให้แนะนำตัวกับผู้สมัคร สว. ด้วยกันเท่านั้น เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการแสดงความคิดเห็น ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 26, 34 แม้ต่อมาจะมีการแก้ไขให้ผู้สมัครแนะนำตัวผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ศาลพิเคราะห์ว่าประชาชนบางส่วนเข้าถึงข้อมูลได้ ทั้งนี้ ศาลวินิจฉัยเพิกถอนเฉพาะข้อ 8 เฉพาะฉบับที่ 1 ที่ประกาศบังคับใช้ในวันที่ 27 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2567 

 

ส่วนข้อ 11 (2) ที่กำหนดถึงการห้ามกลุ่มอาชีพเฉพาะกลุ่ม คือผู้สมัครที่มีอาชีพเป็นสื่อมวลชน ศิลปิน หรือนักแสดง ห้ามใช้ความสามารถหรือวิชาชีพเอื้อประโยชน์ในการแนะนำตัว ทำให้ผู้สมัครกลุ่มอื่นแนะนำตัวมากกว่า เป็นการจำกัดสิทธิเฉพาะกลุ่มอาชีพ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัคร สว. ศาลพิเคราะห์ว่าข้อนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 27 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอน 

 

ส่วนระเบียบข้อ 11 (5) ที่กำหนดให้สื่อมวลชนมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร ศาลพิเคราะห์ว่าระเบียบห้ามเฉพาะผู้สมัคร สว. ไม่ได้ห้ามสื่อมวลชน จึงไม่ถือว่าจำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อ 

 

ดังนั้น ในวันนี้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. 2567 ข้อ 7 ในฉบับที่ 1 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ฉบับที่ 2 ศาลสั่งเพิกถอนให้มีผลย้อนหลัง 

 

และศาลพิพากษาให้เพิกถอนระเบียบข้อ 8 เฉพาะระเบียบที่ประกาศในระหว่างวันที่ 27 เมษายน – 15 พฤษภาคม และเพิกถอนข้อ 11 (2) ตามระเบียบฉบับเดียวกัน โดยให้มีผลย้อนหลังเช่นกัน ส่วนข้อ 11 (5) ให้ยกคำฟ้อง

 

เลขาธิการ กกต. น้อมรับคำสั่งศาล

 

ด้าน แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้เผยว่า ในชั้นสำนักงาน หากอะไรที่ศาลตัดสินแล้วเป็นประโยชน์กับประชาชนก็จะดำเนินการไปตามนั้น และสำนักงาน กกต. จะคำนึงถึงการให้สิทธิกับประชาชนเป็นหลัก ส่วนจะมีการอุทธรณ์หรือไม่ เป็นเรื่องของ กกต. 

 

อย่างไรก็ตาม แสวงยืนยันว่า การเพิกถอนระเบียบไม่กระทบกับกระบวนการทำงานของ กกต. และแม้ศาลพิพากษาว่า กกต. จำกัดสิทธิของประชาชน ก็ยังยืนยันว่าระเบียบแบบนี้ใช้มาโดยตลอด เมื่อศาลพิพากษาว่าเราควรให้สิทธิประชาชนมากกว่านี้ เราก็ต้องรับฟัง

 

อัปเดตข่าวล่าสุด เลือก สว. 2567 เกาะติดผลการเลือก สว. ได้ที่ https://thestandard.co/thai-senate-election-2024/, Facebook : THE STANDARD และ YouTube : THE STANDARD

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising