adidas เพิ่งฟื้นตัวจากการร่วมงานที่ช้ำใจกับแรปเปอร์ Kanye West และคาดว่าจะทำกำไรได้ 700 ล้านยูโร (ประมาณ 24,800 ล้านบาท) ในปี 2024
ความเห็นเชิงบวกของ adidas เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 เมษายน) มีขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากที่บริษัทเพิ่งประกาศผลขาดทุนครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดย adidas เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้า Samba, Gazelle และ Campus
บริษัทระบุว่า ตัวเลขที่ปรับปรุงใหม่แล้วนั้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก 200 ล้านยูโร (ประมาณ 7,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นผลมาจากผลประกอบการไตรมาสแรกของปีที่ดีเกินคาด โดยกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้อยู่ที่ 336 ล้านยูโร (ประมาณ 11,800 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 60 ล้านยูโร (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) จากในปีก่อนหน้า ที่ผลประกอบการได้รับผลกระทบจากการแตกหักกับ West
ยักษ์ใหญ่ด้านชุดกีฬาจากเยอรมนีระบุเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่าวางแผนจะขายรองเท้าผ้าใบ Yeezy ที่เหลืออยู่จากความร่วมมือกับ West อย่างน้อยในราคาทุน โดย adidas ยังกล่าวอีกว่าได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Yeezy อีก 150 ล้านยูโร (ประมาณ 5,300 ล้านบาท) ในไตรมาสนี้ และทำกำไรได้ประมาณ 50 ล้านยูโร (ประมาณ 1,750 ล้านบาท)
บริษัทยืนยันว่าสต็อก Yeezy ที่เหลืออยู่น่าจะขายได้อีกประมาณ 200 ล้านยูโร (ประมาณ 7,000 ล้านบาท) ภายในปีนี้ แต่จะไม่มีกำไรเพิ่มแล้ว ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว adidas ให้คำมั่นว่าจะบริจาครายได้ส่วนหนึ่งจากการขายให้แก่องค์กรการกุศลที่ต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติ
adidas ตัดสัมพันธ์กับ West ในเดือนพฤศจิกายน 2022 จากความคิดเห็นต่อต้านชาวยิวที่เขาแสดงออกบนโซเชียลมีเดีย
ขณะที่แบรนด์ระดับโลกเตือนว่ากำไรจะได้รับผลกระทบจากเรื่องวุ่นวายกับ Yeezy และ adidas ก็ถูกจับตาไปที่ภาวะเงินเปโซของอาร์เจนตินาที่อ่อนค่าลงในปลายปี 2023 ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก adidas เป็นผู้ผลิตเสื้อสำหรับทีมฟุตบอลของอาร์เจนตินามาหลายทศวรรษแล้ว
ยักษ์ใหญ่ด้านเสื้อผ้ากีฬาเผยว่าคาดหวังให้รายได้ที่ปรับตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเติบโตระดับตัวเลขหลักเดียวกลางๆ ไปจนถึงสูงๆ เทียบกับคาดการณ์ที่แล้วที่เพิ่มขึ้นระดับตัวเลขหลักเดียวกลางๆ
แม้จะมีผลประกอบการดังกล่าว แต่ adidas ก็ยังคงคาดว่าผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราจะบีบรายได้และกำไรขั้นต้นในปีนี้
ภาพ: Jay L. Clendenin / Los Angeles Times via Getty Images
อ้างอิง:
