×

Adapter Digital ดึงเทคสุดล้ำพลิกเกมโฆษณาและการตลาด เปิดตัว ‘XSight’ แพลตฟอร์มวัดผลโฆษณาเชิงลึก

03.11.2022
  • LOADING...

Adapter Digital ผู้นำแถวหน้าธุรกิจเอเจนซีโฆษณาด้านดิจิทัลและผู้ให้คำปรึกษาด้านการตลาดของไทยเปิดตัว ‘XSight’ แพลตฟอร์มวิเคราะห์ประสิทธิภาพชิ้นงานโฆษณาด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI มาพัฒนาคู่กับการใช้งานเทคโนโลยีตรวจจับพฤติกรรมการมอง (Eye Tracking) และเทคโนโลยีตรวจจับการแสดงออกความรู้สึกบนใบหน้า (Facial Expression Tracking) ของคนดู พร้อมประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์รายวินาทีเพื่อให้แบรนด์ นักการตลาดเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยกระดับงานโฆษณาได้ทันที

 

ทั้งนี้ XSight คือ แพลตฟอร์มโซลูชันวิเคราะห์ชิ้นงานโฆษณาเชิงลึกที่พัฒนาขึ้นโดย Adapter Digital ถูกพัฒนาบนแนวคิดการนำศาสตร์ด้านประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) และการเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมาย (Emotional Intelligence) มาใช้กับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้แบรนด์ล่วงรู้ถึง Insight ความรู้สึกที่ผู้บริโภคมีระหว่างรับชมงานโฆษณาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้พัฒนางานโฆษณาให้เป็นที่จดจำ โดนใจผู้รับชม สื่อสารสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะถ่ายทอดได้ตรงจุด ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่สามารถวัดประสิทธิภาพของงานโฆษณาได้ลึกและละเอียดกว่าเครื่องมือที่มีอยู่ในท้องตลาด ณ ปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเน้นไปที่ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป เช่น ยอดการรับชม อัตราการกดข้าม อัตราการดูจบ อัตราการกดออก ปฏิสัมพันธ์ของผู้ชม หรือการทำ Video Concept Test Research 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อะแด็ปเตอร์ ดิจิตอล จำกัด (Adapter Digital Group) กล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักของ Adapter คือการยกระดับและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมโฆษณาไทยด้วย Data, Innovation และ Marketing Technology (MarTech) เพราะเรามีความเชื่อว่าดิจิทัลจะช่วยให้ธุรกิจและแบรนด์สามารถขับเคลื่อนการเติบโตทั้งการสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล การรับรู้ของแบรนด์และการสร้างยอดขายได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเราก็ได้เห็นแล้วว่าวันนี้ เทคโนโลยีดิจิทัลได้กลายมาเป็นเครื่องมือหลักในการทำการตลาด ตั้งแต่วิธีการสื่อสารไปจนถึงการขายสินค้า แต่ในขณะเดียวกัน วิธีการประเมินหรือการวัดผลจากกลยุทธ์ที่เราใช้ก็จำเป็นจะต้องอาศัยเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยด้วยเช่นกันเพื่อให้แบรนด์ นักการตลาดสามารถเข้าใจอินไซต์เชิงลึกของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

 

“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Adapter ตัดสินใจพัฒนาและเปิดตัวโซลูชันใหม่อย่าง XSight นวัตกรรมด้านการวัดผลโฆษณาที่จะเข้ามายกระดับการทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาตรวจจับความรู้สึก อารมณ์ จากสีหน้าที่ปรากฏบนใบหน้าของผู้ชมระหว่างรับชมโฆษณา ผสานเข้ากับเทคโนโลยีตรวจจับพฤติกรรมการมอง แล้วนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ผลลัพธ์ข้อมูลเชิงลึก ความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในสมองของผู้ชมที่มีต่อโฆษณา ซึ่งไม่ได้บอกแค่ยอดการรับชม อัตราการดูจบ ปฏิสัมพันธ์ของคนดู อัตราการกดข้าม อัตราการกดออกจากโฆษณา หรือการทำ Video Concept Test Research เหมือนเครื่องมือที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะ XSight จะทำให้แบรนด์มองเห็นทะลุปรุโปร่ง เข้าใจทั้งจุดที่ดีและจุดที่ต้องนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อเพื่อให้การสื่อสารตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพที่สุด โดยในปัจจุบัน แบรนด์ชั้นนำในต่างประเทศก็กำลังตื่นตัวในการนำ Neuroscience และ Emotional Intelligence มาใช้วัดประสิทธิภาพของงานโฆษณาเช่นกัน”

 

สำหรับแพลตฟอร์ม XSight จะประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่ทำงานร่วมกันใน 3 ส่วนหลัก คือ

 

 

  1. เทคโนโลยีตรวจจับการมอง (Eye Tracking): ตรวจจับสายตาของคนดูที่มองไปยังส่วนต่างๆ ในฉากหรือซีนที่ปรากฏบนวิดีโอโฆษณา เพื่อให้สามารถระบุได้ว่า ในงานโฆษณาตัวนั้นๆ คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจสิ่งใดมากที่สุด เช่น สินค้า, นักแสดง หรือเนื้อหา

 

  1. เทคโนโลยีตรวจจับการแสดงออกทางอารมณ์ผ่านใบหน้า (Facial Expression Tracking): ตรวจจับอารมณ์ความรู้สึกจากการแสดงสีหน้าของคนดูระหว่างรับชมโฆษณา ซึ่งระบุได้ถึง 6 อารมณ์คือ โกรธ (Angry), เบื่อ (Disgusted), มีความสุข (Happy), เศร้า (Sad), ประหลาดใจ (Surprised) และหวาดกลัว (Fearful)

 

  1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI): นำโมเดล AI เข้ามาใช้งานเพื่อตรวจจับอารมณ์มาตราฐานที่ปรากฏบนใบหน้าของคนดู โดยทดสอบกับ Data Set FER2013 ได้ผลลัพธ์ที่ 70% เทียบกับความแม่นยำของคนจริงๆ ที่ทดสอบโดยใช้ชุดข้อมูลเดียวกัน ได้ผลลัพธ์ที่ 68% ถือว่าเป็นอัตราที่มีความใกล้เคียงกับการใช้คนคัดแยกข้อมูลเลยก็ว่าได้

 

ตัวอย่างการใช้ประโยชน์จาก XSight เช่น การใช้งานเพื่อระบุ Attention Signals Score เพื่อให้แบรนด์เข้าใจซีน ช่วงเวลาในโฆษณาที่กระตุ้นความสนใจและการรับรู้ของคนได้ดีที่สุด จากการนำค่าเฉลี่ยอารมณ์ร่วมของผู้ชมที่เกิดขึ้นระหว่างชมโฆษณา (Emotion Intensity Score) มารวมเข้ากับซีนที่ผู้ชมพร้อมใจกันมองไปยังแบรนด์ / ผลิตภัณฑ์มากที่สุด (Visual Impact Score) ซึ่งสิ่งนี้ยังสามารถนำมาต่อยอดกับการทำโฆษณาฉบับสั้น หรือ Bumper ads1 ที่มั่นใจได้ว่าจะเป็นการคัดเลือกซีนที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง หรือการนำไปใช้ระหว่างขั้นตอน Double Head 2 เพื่อให้ได้งานโฆษณาที่มีคุณภาพ คุ้มค่าต่องบประมาณ ตอบโจทย์ทุกฝ่าย รวมถึงการถอดบทเรียนจากงานโฆษณาทั้งของตัวเองและคู่แข่งเพื่อยกระดับงานโฆษณาให้โดดเด่น แตกต่างจากเดิมในทุกๆ ครั้ง เป็นต้น

 

ทั้งนี้ แนวคิดการนำ Neuroscience มาใช้ประโยชน์กับงานโฆษณาหรือที่เรียกรวมว่า Neuromarketing ถือเป็นประเด็นที่แวดวงนักการตลาดจำนวนมากให้ความสนใจมาสักระยะแล้ว โดยที่ Harvard Business Review 3 ได้ระบุเอาไว้ว่า การนำเทคโนโลยีและหลักคิดดังกล่าวมาผสานการทำงานร่วมกันจะช่วยให้แบรนด์ นักการตลาดเข้าถึงข้อมูลอินไซต์ที่แท้จริงของผู้บริโภคได้ ทั้งยังสกัดข้อมูลเชิงลึกได้ต่างจากวิธีการเดิมๆ โดยเฉพาะการจับคู่เทคโนโลยีตรวจจับการมอง Eye Tracking เข้ากับการแสดงอารมณ์ความรู้สึกบนใบหน้า Facial Coding (Facial Expression) ที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนางานคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์โดยตรง

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยมีรายงานข่าวที่เปิดเผยว่า ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงฮอลลีวูดอย่าง Disney ก็เคยนำเทคโนโลยี AI และ Deep Learning เข้ามาใช้ในงานวิจัยเพื่อการจำแนกสีหน้า อารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมภาพยนตร์แอนิเมชันของพวกเขาแบบเรียลไทม์มาแล้ว เพื่อให้สามารถนำไปใช้พัฒนา ยกระดับคอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นมา ทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความบันเทิงในสวนสนุกธีมพาร์กได้อีกด้วย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising