หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รับรองให้พรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. เป็นพรรคการเมืองตามกฎหมาย กรรมการบริหารพรรคและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคได้ประกาศเปิดปฏิบัติการ ‘เดินคารวะแผ่นดิน’ ภายในสัปดาห์เดียวกันทันที
กลายเป็นที่มาของกิจกรรมในเช้าวันนี้เพื่อปักหมุดออกสตาร์ทก่อนเดินสายทั่วไทย โดยเริ่มจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรค พร้อมด้วย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค, นายสุริยะใส กตะศิลา และดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ นำคณะผู้จัดตั้งพรรครวมทั้งพี่น้องประชาชนราว 50 คน เข้าวางพานพุ่มดอกไม้ถวายสักการะ ณ เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระราชวงจักรี
ณ ที่นั้น นายสุเทพ หรือลุงกำนัน ได้นำทุกคนกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ มีใจความสำคัญ 3 ข้อดังกึกก้องทั่วทั้งลานว่า
หนึ่ง ข้าพระพทุธเจ้าจะเป็นข้าแผ่นดินที่จงรักภักดีและเดินตามรอยพระยุคลบาทของพระมหากษัตริย์ จะรับเอาพระราชปรีชาญาณ พระบรมราชวินิจฉัย และแนวพระราชดำริทั้งปวงของพระองค์ท่านมาเป็นหลักชัยในการทำงานเพื่อบ้านเมือง
สอง ข้าพระพุทธเจ้าจะเป็นพลเมืองไทยที่บากบั่น ทุ่มเท และจะปักจิตปักใจสร้างระบอบประชาธิปไตยที่ดีงามอันมีหลักธรรมาธิปไตยชี้นำกำกับการเมืองไทยต่อไปนี้ ต้องเป็นไปเพื่อปกปักรักษาชาติให้ประเทศอยู่รอดปลอดภัย ปวงข้าพระพุทธเจ้าจะผนึกกำลังกันต่อต้านการทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง ต่อต้านนักการเมืองที่ ‘กินบ้านกินเมือง’ อย่างถึงที่สุด
สาม ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงจะมุ่งมั่นให้พรรครวมพลังประชาชาติไทยนี้เชื่อฟังและดำเนินงานตามความต้องการและความใฝ่ฝันของปวงประชาชนอย่างแท้จริง ให้เกิดธรรมเนียมใหม่ในการเมืองไทยว่า เมื่อประชาชนคิด ประชาชนสั่ง พรรคการเมืองจะต้องทำให้จงได้ ในการนี้พรรคมุ่งมั่นเป็นพิเศษที่จะปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนให้การปฏิรูปประเทศดำเนินการไปจนสำเร็จ
ภายใต้บรรยากาศทางการเมืองที่ยังถูกจำกัดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพราะ คสช. ยังคงล็อกพรรคการเมืองไว้ด้วยคำสั่งและเงื่อนไขต่างๆ ทำให้การขยับทำกิจกรรมต่างๆ ตั้งอยู่บนความสุ่มเสี่ยงที่อาจถูกตีความ ทำให้พรรคต้องเดินไปอยู่ปากเหวของการถูกยุบพรรค
“เราได้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ก่อนหน้านี้เราไม่เคยเคลื่อนไหว จนกระทั่ง กกต. รับรองให้พรรคเป็นพรรคการเมืองตามกฎหมาย เราก็ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. ซึ่งอนุญาตให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมเพื่อหาสมาชิกพรรค วันนี้คือการไปคารวะประชาชน กราบเรียนให้ประชาชนทราบว่าตั้งพรรคตามกฎหมายถูกต้องแล้ว จะได้เข้ามาร่วมเป็นเจ้าของพรรค เราไม่พูดเรื่องหาเสียง แต่จะพูดว่ามาร่วมกันเป็นเจ้าของพรรคประชาชนอย่างแท้จริง” นายสุเทพตอบสื่อหลังถูกโยนคำถามใส่ว่านี่คือการหาเสียงหรือไม่
จากนั้นกำนันสุเทพนำทัพเริ่มออกเดินเชิญชวนประชาชน ธงชาติไทยและป้ายประกาศคารวะแผ่นดินถูกสะบัดโบกเหนือพื้นถนนย่านปากคลองตลาด กำนันสุเทพพูดคุยกับประชาชนผ่านไมค์ที่ทีมงาน Live ของพรรคจัดเตรียมไว้ เพื่อให้เสียงถูกส่งผ่านระบบถ่ายทอดสดกังวานออกไปยังทั่วประเทศ
“วันนี้ผมมาทักทาย มาแจ้งข่าวว่าพรรคตั้งตามกฎหมายแล้วครับ ถ้าอุดมการณ์เดียวกัน เชิญมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคครับ” กำนันสุเทพจับมือพร้อมทักทายประชาชน
ตลอดเส้นทางการเดินเท้าคารวะแผ่นดิน กำนันสุเทพคือตัวยืนหลัก ทั้งปราศรัยเชิญชวน มุดเข้าออกร้านรวง ขณะที่หม่อมเต่า จัตุมงคล ถูกกำกับบทโดยกำนันสุเทพให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เช่น ให้ยื่นใบสมัครให้ถึงมือประชาชน สลับกับการถ่ายภาพบางจังหวะกับผู้คนที่เข้ามาทักทาย
กิจกรรมในวันนี้จะจบลงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานที่ซึ่งกำนันสุเทพเคยใช้เป็นปริมณฑลในการก่อรูปกลุ่ม กปปส. ที่มีบทบาททางการเมืองในภาพของ ‘นกหวีด’ แม้วันนี้การเดินของกำนันสุเทพปราศจากเสียงนกหวีด แต่เสียงเรียกชาวบ้านที่หลุดลอดมาบางขณะว่า ‘มวลมหาประชาชน’ ยังคงซ้ำๆ และถี่
แต่ทว่าไม่ใช่ลุงกำนันในแบบฉบับเดิมที่เคยประกาศวางมือการเมือง หากแต่เป็นลุงกำนันที่รับภารกิจใหม่ในการก่อรูปพรรคการเมืองที่สัญญาว่าจะนำเอา ‘เจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน’ ในการปฏิรูปการเมืองมาทำอย่างจริงจังอีกครั้ง
เหมือนบทเพลงที่มีเนื้อหาท่อนหนึ่งว่า “ภาพจำยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกอย่าง”
