×

อภิสิทธ์ชี้รัฐบาลสับสน เซ็นสัญญาสันติภาพกัมพูชา แต่มีนโยบายยกเลิก MOU 44 แนะกำหนดนโยบายชัดก่อนทำประชามติ

โดย THE STANDARD TEAM
28.10.2025
  • LOADING...
**อภิสิทธ์ชี้รัฐบาลสับสน เซ็นสัญญาสันติภาพ กัมพูชา แต่มีนโยบายยกเลิก MOU 44 แนะกำหนดนโยบายชัดก่อนทำประชามติ**

วันนี้ (28 ตุลาคม) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา วุฒิสภา เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า สมัยที่ตนเป็นรัฐบาลเคยมีแนวคิดและการดำเนินการเกี่ยวกับการยกเลิก MOU 2544 ซึ่งวันนี้เป็นการเชิญจาก กมธ. เพื่อมาสอบถามว่าแนวคิด ณ ขณะนั้นเป็นอย่างไร ไม่แน่ใจว่าจะมีการสอบถามเรื่องอื่นด้วยหรือไม่

 

อภิสิทธิ์กล่าวถึงความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับการยกเลิก MOU 2543 และ 2544 ว่า มีความสับสนอยู่มาก เพราะรัฐบาลเขียนในนโยบายว่าจะต้องทำประชามติ แต่สภาได้ตั้งกรรมาธิการทั้ง 2 สภาขึ้นมาศึกษา ก่อนหน้าจะมีแนวคิดการทำประชามติ และล่าสุดที่ได้มีการไปลงนามสันติภาพกับประเทศกัมพูชาในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้มีการอ้างอิงถึงการดำเนินการตาม MOU ด้วย

 

สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลน่าจะต้องชี้แจงคือแนวทางการทำงานขณะนี้ จนถึงวันเลือกตั้ง ว่าการทำประชามติจะเป็นอย่างไร เพราะมีความสับสนอยู่พอสมควร ว่าตกลงแล้วการทำงานขณะนี้กับนโยบายสัมพันธ์กันอย่างไร

 

อภิสิทธิ์ยังกล่าวด้วยว่า ประชาชนอยากได้ข้อมูลให้ได้มากที่สุดก่อนมีการทำประชามติ กระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคงเอง ก็คงอยากได้ความชัดเจนในเรื่องทิศทางของนโยบายด้วยเช่นกัน เพราะจะไปแขวนทุกอย่างไว้กับการรอการทำประชามติก็ไม่ได้ ฉะนั้น รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เดินหน้าได้ อย่างน้อยที่สุดทุกคนก็น่าจะเห็นตรงกันในข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ที่อยากให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติ ก่อนจะไปพูดถึงเรื่องอื่น

 

แนะรัฐบาลเปิดข้อตกลงแร่แรร์เอิร์ธให้ประชาชนรับรู้

 

ทั้งนี้ อภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการลงนามใน MOU แร่แรร์เอิร์ธกับสหรัฐอเมริกา ว่า เรื่องนี้เป็นโอกาสในการแสวงหาผลประโยชน์ เพื่อเป็นการเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทาน ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องระวังดูแลในเรื่องของรายละเอียดใน 3 ประเด็น คือ

 

1. ประโยชน์ที่ฝ่ายไทยจะได้รับ 2. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบต่างๆ และ 3. ไม่อยากให้ข้อตกลงแบบนี้เป็นการผูกขาด เพราะประเทศอื่นก็คงมีความต้องการที่จะเข้ามาร่วมมือกับประเทศไทยเช่นเดียวกันโดยเฉพาะจีน เพราะเรื่องนี้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางการค้าของสองมหาอำนาจ ซึ่งไทยต้องระมัดระวังในการรักษาความสมดุลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

อภิสิทธิ์ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะต้องเปิดเผยความจริงให้แก่ประชาชน แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดในระหว่างการเจรจา แต่ประชาชนควรมีสิทธิ์ที่จะรู้ก่อนหน้านี้แล้วว่าสิ่งรัฐบาลดำเนินการแลกเปลี่ยนเพื่อเจรจาต่อรองมีประเด็นอะไรบ้าง

 

“ความจริงในภูมิภาคนี้มีประเทศอื่นๆ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าก็ยังไม่มีการไปทำข้อตกลงแบบนี้ ยกเว้นกรณีของออสเตรเลีย เพราะฉะนั้น นายกฯ ก็ตอบง่ายไปนิดที่บอกว่าเป็นแค่ MOU เราคงไม่ไปทำอะไร ในที่สุดแล้วถูกมองว่าเอ๊ะเราไปตกลงอะไรกันแล้วไม่ให้ความสำคัญ เพียงแต่เรื่องนี้ผมคิดว่าคนไทยทราบสิ่งเหล่านี้เป็นครั้งแรกเมื่อเปิดเผยออกมา รัฐบาลมีหน้าที่สำคัญในการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการทำความเข้าใจว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร” อภิสิทธิ์กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising