วันนี้ (29 พฤศจิกายน) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงทิศทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ว่าทุกคนรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีความชัดเจนอย่างไร รวมถึงระบบการเลือกตั้ง ทุกคนเห็นตรงกันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มีปัญหา อันเนื่องมาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกันในบางมาตรา ซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยในวันพรุ่งนี้ (30 พฤศจิกายน)
อภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า สถานการณ์ในขณะนี้ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวแบบลงถนน สิ่งที่ทำได้คือทุกคนต้องทำตามกติกา เพราะการเลือกตั้งได้ถูกกำหนดไว้ว่าจะเกิดขึ้นปี 2566 เพียงแต่ว่าการเลือกตั้งจะต้องราบรื่นที่สุด และจะแก้ไขปัญหาทางกฎหมายได้อย่างไร ไม่น่าจะมีอะไรที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง
ส่วนทิศทางทางการเมืองของตนเองนั้น ต้องรอดูทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะตอนนี้ไม่มีการคุยอะไรกัน ส่วนตัวจะเดินหน้าทางการเมืองต่อไปหรือไม่ ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น ตนเป็นเพียงสมาชิกพรรค ยังไม่ทราบท่าทีทิศทางของพรรคเพราะยังไม่มีการพูดคุยกัน
ส่วนกรณีการร่วมรับประทานอาหารกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น อภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นแค่การไปรับประทานอาหารกับอนุทิน และคนตีความกันไปเอง ตนแปลกใจเพราะว่าไม่มีอะไร เพราะตนเคยเลี้ยงข้าวอนุทินเมื่อนานมาแล้ว และเราได้พบกันที่งานศพพี่ชายของ สาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นเพียงการพูดคุยแลกเปลี่ยนทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร ไม่มีนัยอะไรแอบแฝง และยืนยันว่าตนยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนท่าทีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไปเล่นการเมืองสังกัดพรรคใดนั้น อภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของ พล.อ. ประยุทธ์ที่จะต้องตัดสินใจว่าจะวางอนาคตทางการเมืองอย่างไร เป็นสิทธิของท่าน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทยอยลาออกอย่างต่อเนื่อง อภิสิทธิ์ระบุว่า เป็นเรื่องธรรมดา และเป็นหน้าที่ของผู้บริหารพรรคที่จะแก้ไขปัญหา แต่ตนเข้าใจว่ามีหลายเหตุผลที่ทำให้หลายคนลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งยังมีสมาชิกโทรมาลาออกและอธิบายความคิดต่างๆ โดยปัญหาภายในพรรคมีข้อจำกัดเยอะ แต่พรรคก็ต้องแก้ไขให้ทันสถานการณ์