เกิดอะไรขึ้น:
ต้นทุนน้ำมันเครื่องบินที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินงานและผลประกอบการของ AAV ใน 3Q66 และ AAV กำลังจัดการผลกระทบนี้ด้วยการปรับค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นับถึงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ราคาน้ำมันเครื่องบินเฉลี่ยอยู่ที่ 107 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 16% จากค่าเฉลี่ยใน 2Q66 และนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม รัฐบาลได้ยุติมาตรการช่วยเหลือสายการบินในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดแล้ว ส่งผลให้ภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเครื่องบินที่ใช้กับเที่ยวบินภายในประเทศกลับมาอยู่ที่ 4.726 บาทต่อลิตร (จาก 0.2 บาทต่อลิตร)
AAV กล่าวว่า บริษัทส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นนี้ด้วยการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน (เที่ยวบินระหว่างประเทศ) และค่าโดยสาร (เที่ยวบินภายในประเทศ) โดยค่าโดยสารเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ ~1,800 บาทต่อคน (เพิ่มขึ้นจาก 1,755 บาทต่อคน ใน 2Q66) และแนวโน้มค่าโดยสารน่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การศึกษาของ InnovestX Research บ่งชี้ว่าต้นทุนน้ำมันเครื่องบินของ AAV จะเพิ่มขึ้น ~730 ล้านบาท และบริษัทจะต้องขึ้นค่าโดยสารเฉลี่ยเป็น ~1,900 บาทต่อคน ใน 3Q66 จึงจะสามารถชดเชยผลกระทบทั้งหมดได้
ด้านการรุกตลาดจีน ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว AAV วางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เป็น 23,000 ล้านที่นั่ง-กม. ในปี 2566 หรือ 85% ของระดับก่อนเกิดโควิด (เทียบกับ 86% ใน 2Q66 และ 79% ใน 1H66) โดยได้แรงหนุนหลักจากเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นใน 2H66 สำหรับตลาดจีน (22% ของรายได้ปี 2562 และ 10% ของรายได้ 1H66)
บริษัทวางแผนเพิ่มความถี่เที่ยวบินจาก 40 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ใน 1Q66 และ 108 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ใน 2Q66 เป็น 138 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งใกล้กับระดับปี 2562 ซึ่งมองว่าแผนการขยายเที่ยวบินในตลาดจีนดังกล่าวจะทำให้ AAV ได้ประโยชน์จากมาตรการที่รัฐบาลมีแนวโน้มออกมาเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งคาดว่าจะออกมาใน 4Q66
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AAV ปรับเพิ่มขึ้น 5.93%MoM สู่ระดับ 2.86 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.67%MoM สู่ระดับ 1,545.50 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
หลังจาก AAV รายงานกำไรปกติเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562 ใน 2Q66 และความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนน้ำมันเครื่องบินที่สูงขึ้นเริ่มผ่อนคลายลงหลังจากค่าโดยสารเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นจึงได้ปรับประมาณการของ AAV เพิ่มขึ้นสู่กำไรปกติ 756 ล้านบาท ในปี 2566 (จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขาดทุนปกติ 815 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้น 9% ในปี 2567 สู่กำไรปกติ 1.4 พันล้านบาท
และคาดว่า AAV จะรายงานกำไรปกติได้ต่อเนื่องใน 3Q66 โดยจะปรับตัวดีขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากต้นทุนน้ำมันเครื่องบินสูงขึ้น แต่จะได้รับการชดเชยบางส่วนจากค่าโดยสารเฉลี่ยที่ดีขึ้น โมเมนตัมผลประกอบการน่าจะปรับตัวดีขึ้น QoQ ใน 4Q66 เพราะเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวไทย
ปัจจัยบวกเปิดโอกาสให้ Trading ระยะสั้น โดยเล็งเห็นโอกาส Trading หุ้น AAV ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว InnovestX Research แนะนำให้รอ Risk/Reward ที่น่าสนใจกว่านี้
โดยคำแนะนำ Tactical Call ระยะ 3 เดือนสำหรับ AAV ปรับขึ้นสู่ Neutral (จาก Underperform) ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 3 บาทต่อหุ้น (เพิ่มขึ้นจากราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 2.5 บาทต่อหุ้น) อ้างอิง P/E 27 เท่า ซึ่งเท่ากับระดับ +2SD P/E ปี 2558-2560 (ช่วงที่การดำเนินงานและผลประกอบการของ AAV ปรับตัวดีขึ้นหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบ)
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก, ราคาน้ำมันเครื่องบินสูงขึ้น, เงินบาทอ่อนค่า และการแข่งขันรุนแรง